BACK TO EXPLORE

Glitter Pooch อัพลุคน้องหมาด้วยแฟชั่นสุดชิค!

Glitter Pooch อัพลุคน้องหมาด้วยแฟชั่นสุดชิค!
เสื้อผ้าของน้องหมาที่ใส่แล้วมีออร่าเปล่งประกาย

เมื่อความรักที่มีให้กับลูกรักสี่ขามาเจอกับแฟชั่นเลยทำให้เกิดเป็นอาชีพที่ทำเท่าไหร่ก็มีความสุขกลับคืนมาเท่านั้น เหมือนกับที่ คุณนุช - ณิชาภา อิโตะ Founder & Director Glitter Pooch World Co., Ltd. ได้เริ่มต้นลงมือเรียนรู้กับการสร้างแบรนด์ใหม่ที่ยังไม่มีใครทำกับเสื้อผ้าน้องใหม่ตั้งแต่เท่ๆ ไปจนถึงคุณหนูไฮโซ นี่คือเรื่องราวที่เธอกับน้องมีช่าได้เดินทางมาร่วมกัน

เรียนไปด้วย เปิดแบรนด์ไปด้วย
ตั้งแต่วันที่คุณนุชได้เลี้ยงน้องมีช่า สุนัขพันธุ์ชิวาว่า ก็เกิดเป็นไอเดียที่อยากจะแต่งตัวให้น้องหมาแบบเก๋ๆ ไม่เหมือนใคร เดินออกไปตามหาชุดก็ไม่เจอสไตล์ที่ใช่เลยตัดสินใจไปเรียนให้รู้จักแพทเทิร์น แต่ก็เริ่มด้วยเสื้อผ้าของคนกันก่อน “เริ่มต้นแบรนด์ Glitter Pooch มาตั้งแต่ปี 2006 ค่ะ ไปเรียนตัดเย็บชุดของคนก่อน แล้วได้มาลองเย็บชุดให้มีช่าใส่ ตั้งแต่ตอนนั้นยังทำเป็นไซส์ xs ให้อยู่เลย นุชเองก็ยังเรียนด้านการตลาดอยู่มหาวิทยาลัย อยากทำชุดให้หมาของเราใส่ เราชอบและเรามีแพชชั่น คิดว่าอาชีพนี้คงทำได้แบบไม่มีวันเบื่อและเราเองก็ชอบตัดเสื้อผ้าให้มีช่าใส่บ่อยๆ เลยได้ไปศึกษาตลาด ดูคู่แข่ง ดูว่าฐานลูกค้าของเราเป็นแบบไหน ลูกค้าต้องการอะไร มีสไตล์แนวไหน ก็ใช้เวลานาน ดีไซน์แต่ละตัวก็มาจากว่าเราอยากให้หมาของเราใส่แบบไหน ก็ทำเหมือนกันวางขาย เป็นการออกแบบที่มาจากความชอบของเราจริงๆ”

“ตอนนั้นทำงานประจำอยู่ที่ธนาคารเป็นมาร์เก็ตติ้ง ก็ทำงานไปด้วยศึกษาไปด้วยอยู่ประมาณ 2 ปี เพราะเราคิดไว้แล้วว่าเรียนจบจะมาเปิดธุรกิจเลยอาจจะไม่เวิร์ค เพราะความรู้เรายังน้อยและไม่มีคอนเนคชั่นเลย นุชเริ่มจากค่อยๆ ทำเล็กๆ น้อยๆ เข้าไปเสนอร้านค้า คุยว่าถ้าทำเสื้อผ้าประมาณนี้ราคาควรอยู่ที่เท่าไหร่ หลังจากที่เข้าไปมีคนสนใจเยอะมาก อย่างเข้าไปเสนอ 10 ร้าน ทั้ง 10 ร้านนั้นสนใจหมดเลย เราคิดว่าตลาดตรงนี้ไม่ได้แคบ ขายไปซักระยะ เริ่มมีลูกค้าต่างชาติมาสนใจ”

 

เพิ่มความสามารถด้านภาษาและออกไปดูโลก
เมื่อเห็นว่าต้องออกไปติดต่อกับคนต่างชาติ ก็ต้องไปติดอาวุธทางภาษาให้ตัวเอง คุณนุชเดินทางไปเรียนภาษาที่อังกฤษและเห็นเทรนด์ที่กว้างขึ้น “ตอนนั้นไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ มีลูกค้าต่างชาติติดต่อมาแล้วเราอยากติดต่อพูดคุยเอง เลยตั้งใจไปเรียนภาษาที่อังกฤษ ระหว่างที่เรียนก็ไปดูร้านขายของสัตว์เลี้ยง ไปดูเทรนด์ของเขา ทั้งที่ก็ไม่ได้มีความรู้เลย เราแค่อยากรู้เท่านั้น และทำให้เราเห็นว่าความชอบของคนเลี้ยงหมาที่อังกฤษกับคนไทยแตกต่างกัน เขาจะเน้นสไตล์คลาสสิค สีเขียวกรมท่า สีดำ จะไม่ค่อยเห็นพวกสีชมพูหรือสีฟ้า นุชมีเอาสินค้าไปด้วยแล้วลองไปนำเสนอขายด้วย ก็มีคนสนใจค่อนข้างดีค่ะ”

 

หลังจากกลับมา คุณนุชได้งานประจำอีกครั้งเพราะต้องใช้เวลาในการสร้างแบรนด์ให้ปังควบคู่ไปด้วย “ช่วงที่เราไม่อยู่เมืองไทย ก็ยังทำแบรนด์ไปเรื่อยๆ เราออกแบบ และมีช่างตัดซึ่งแพทเทิร์นมาจากเราหมด หลังจากแบรนด์เริ่มอยู่ตัวแล้ว เลยมาทุ่มเททำ 100% นุชตัดสินใจลาออกจากงาน ลูกค้าของเราจะอยู่แถวทองหล่อ สุขุมวิท ตามโรงพยาบาลสัตว์ ตอนนั้นยังไม่มีร้านดีๆ แต่นุชทำคนเดียว เวลาติดต่อขายที่ไหน เราจะนำเสนอครั้งเดียวแล้วขายในปริมาณที่เยอะไปเลย เป้าหมายใน 2-3 ปีนี้ นุชจะลุยต่างประเทศ ตอนนี้มีวางขายแล้วในมาเลเซีย อังกฤษ ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ สิงคโปร์ ฮ่องกง ล่าสุดกำลังจะไปรัสเซียด้วยค่ะ”

 

แต่ละคอลเลคชั่นมีคอนเซปท์ที่น่ารักมาก!
งานตัดเย็บของ Glitter Pooch คุณนุชบอกว่าต้องมีคุณภาพมากๆ และผ้าที่เลือกมาก็นึกถึงทั้งความสวยงามและการใช้งานของน้องหมาแต่ละพันธุ์ อย่างคอลเลคชั่น Mr. & Mrs. Hound ก็ล้อมาจากหนังเรื่อง Mr. & Mrs. Smith ที่ดูขรึมเท่ หรือคอลเลคชั่นของน้องหมาบางชุดก็จะแกลมๆ หน่อย อย่างกี่เพ้าเอง คุณนุชเล่าว่าลูกค้ามาเลเซียกับสิงคโปร์ชอบมาก “เราจะรู้ว่าลูกค้าอยากได้อะไร จากตัวแทนที่ขายมาอัพเดทให้ฟัง เราก็ต้องดูว่าจะอยู่ใน range ไหน ขายเท่าไหร่และทำแบรนด์ยังไง ซึ่งแต่ละคอลเลคชั่นเราต้องคำนึงถึงการใช้งาน ใส่สบาย เพราะบ้านเราอากาศร้อน ดูถึงสรีระของเขาตอนเดิน นั่ง หรือตอนถ่าย อย่างกระโปรงถ้าแพทเทิร์นไม่ถูกต้อง เวลาเขาฉี่อาจเลอะได้ หรือเวลานั่ง ท้องของเขาจะขยายออกมาอีกหลายนิ้ว ต้องตัดแล้วแก้นานมากช่วงแรกๆ” พิถีพิถันใส่ใจขนาดนี้ ใครที่สนใจและชอบแต่งตัวให้น้องหมาใส่เสื้อผ้าแล้วมีออร่า ก็สามารถแวะมาดูสินค้า Glitter Pooch ได้ที่ชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่ มีไซส์ตั้งแต่ตัวเล็กๆ ไปจนถึงสุนัขที่หนัก 8 กิโลกรัม


YOU MAY ALSO LIKE