BACK TO EXPLORE

Meet Trimode Studio

“ค้นคำตอบให้ตัวเองก่อนว่าสิ่งที่เราจะทำเป็นสิ่งที่เรามีความต้องการกับมันจริงๆ ไหม ถ้าเรามั่นใจแล้วไปให้สุดทางเลย”

จุดเริ่มต้นของ TRIMODE STUDIO เกิดขึ้นจาก สองพี่น้องฝาแฝด พิรดา - ภารดี เสนีวงศ์ ณ อยุธยา และ ชินภานุ อธิชาธนบดี เพื่อนสนิท ที่ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงานประจำของตัวเองหลังเรียนจบ และรู้สึกสิ่งที่พวกเขาออกไปค้นหานั้นใช่สิ่งที่ตัวเองชอบจริงๆ หรือเปล่า


“พวกเราต่างแยกย้ายไปทำงานตามแขนงต่างๆ ที่ตัวเองคิดว่าใช่ จากงานจีเวลรี่ ไปเป็นสไตลิส ไปทำแฟชั่น จนกระทั่งมารู้ตัวว่าจริงๆ แล้วเราชอบงานประดิษฐ์มากกว่าจะเป็นงานแฟชั่นเต็มๆ เราอยากทำงานเชิงหัตถกรรม และงานออกแบบ จึงกลับมารวมตัวกันทำงานออกแบบจีเวลรี่ เฟอร์นิเจอร์ และงานออกแบบภายใน ช่วงหลังก็มีการทำสินค้าขึ้นมาแล้วนำไปวางขายที่ Siam Discovery”

“องค์ประกอบของ TRIMODE STUDIO จึงมีอยู่ 3 อย่างคือ Trimode Studio เป็น design service ดั้งเดิมคือรับงานออกแบบ Interior Product และ Trimode Accessories ที่เกี่ยวกับจิวเวอรี่ และแบรนด์ที่สามเราใช้ชื่อว่า TRIMODE.c ซึ่งมันอาจจะพ้องเสียงกับคำว่า see ที่แปลว่าพบเห็น และตัว C ก็ยังมีความหมายว่า Craft Correlation และ Community ซึ่งแบรนด์นี้ของเราจะอยู่ที่ Siam Discovery ด้วย”


แต่กว่าจะเดินทางจนประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศแบบทุกวันนี้ พวกเขาก็ยอมรับว่าต้องแลกกับการฝ่าฝันที่หนักหนาเอาเรื่องเหมือนกัน

“ตอนนั้นเรายังเด็กกันอยู่ และมาเริ่มทำงานกันใหม่ ก็มีการลองผิดลองถูกเสมอ เพราะพวกเรามาจากพื้นฐานที่ไม่ได้รู้อะไรเรื่องการตลาดเลย การลองผิดลองถูกนั้น ก็จะมีบางครั้งที่เราเดินไปผิดทาง บางครั้งรู้สึกว่าไม่น่าเลย เสียเวลาจริงๆ แต่ทุกอย่างก็เป็นประสบการณ์ที่พัฒนามาจนให้เป็นเราในทุกวันนี้ คือบางทีเราก็ไปเอาใจกับตลาดมากเกินไป จนทำให้เสียความเป็นตัวของตัวเอง แต่ยังไงก็แล้วแต่ เราก็เอาความผิดพลาดนั้นมาพัฒนาต่อในอนาคตได้”


จากนักออกแบบรุ่นจูเนียร์ก็ก้าวขึ้นเป็นศิลปินรุ่นพี่ที่น้องๆ หลายคนมักเข้ามาขอคำปรึกษาอยู่เสมอและคำแนะนำหลักๆ ของพวกเขากลุ่มนี้ก็คือ

“หาสิ่งที่ชอบให้ได้จริงๆ ค้นคำตอบให้ตัวเองก่อนว่าสิ่งที่เราจะทำเป็นสิ่งที่เรามีความต้องการกับมันจริงๆ ไหม ถ้าเรามั่นใจแล้วไปให้สุดทางเลย และอย่ากังวลว่ามันจะขายได้ไหม มีสิ่งหนึ่งที่พวกเราคิดมาตลอดคือ ถ้าเราทำสิ่งที่เราชอบกับมันจริงๆ เราจะเห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำ และเราทำอย่างจริงจังและตั้งใจ ถึงวันนี้มันไม่ได้แต่มันจะมีวันของมันแน่ๆ มันจะมีคุณค่าเหมือนที่เราเห็น ซึ่งอันนี้เป็นอันหนึ่งที่พวกเราทำมาตลอด”

YOU MAY ALSO LIKE