BACK TO EXPLORE

Sustainability “A Way of Life”

Sustainability “A Way of Life”
เปลี่ยนโลกด้วยความยั่งยืน


เมื่อพูดถึงแบรนด์ Apple หลายคนอาจนึกถึงความเป็นผู้นำนวัตกรรมเปลี่ยนโลก แต่แท้ที่จริงยังนำหน้าแบรนด์อื่นๆ ในเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนอีกด้วย โดยให้ความสำคัญตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการใช้พลังงานทดแทน เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่มีวิสัยทัศน์มองอนาคตมากกว่าแค่วันนี้เท่านั้น

เป็นที่ทราบกันดีว่าโลกกำลังเผชิญปัญหา Climate Change หรือการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้น Tim Cook ในฐานะ CEO และ Johnny Ive ซึ่งเป็น Chief Design Office ของ Apple ต่างร่วมมือกันตั้งใจให้ Apple กลายเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง




เริ่มตั้งแต่ Johnny Ive เน้นการออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้มีความทนทานสูงเพื่อให้เราสามารถใช้งานผลิตภัณฑ์ได้นานที่สุด เพราะพวกเขามองว่าการเปลี่ยนเครื่องบ่อยๆ เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง ไม่เพียงเท่านั้นยังเน้นการเลือกใช้วัสดุที่มีความปลอดภัยมากที่สุดและออกแบบให้ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนเพียงไม่กี่ชิ้น ผ่านกระบวนการผลิตที่สร้างผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เห็นได้ชัดจากการเปลี่ยนระบบการผลิตเครื่อง iPhone 6s ซึ่งใช้พลังงานลดลงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ที่สำคัญยังออกแบบหุ่นยนต์สำหรับถอดแยกชิ้นส่วนได้ถึง 1,200,000 เครื่องต่อปี เพื่อนำชิ้นส่วนบางอย่างกลับมาใช้ใหม่แทนการใช้ทรัพยากรใหม่อย่างสิ้นเปลือง


บรรจุภัณฑ์ของ iPhone6 S ที่ลดการใช้กระดาษลงถึง 34 เปอร์เซ็นต์

ต่อมามีการแต่งตั้ง Lisa Jackson ในตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารด้านสิ่งแวดล้อมในปีค.ศ. 2013 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่ได้พบเห็นบ่อยนัก แต่นี่แสดงให้เห็นว่า Apple จริงจังกับเรื่องนี้มากแค่ไหน โดยเธอมีหน้าที่วางแนวทางเพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่การเป็นองค์กรสีเขียวให้ได้มากที่สุด ทุกวันนี้ Apple ให้ความสำคัญกับเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้พลังงานทดแทนจากแผงโซล่าเซลล์ในโรงงาน สโตร์ ตลอดจน Data Center ทั่วโลก โดยสามารถผลิตพลังงานสะอาดครอบคลุมการใช้งานกว่า 93 เปอร์เซนต์ของการใช้พลังงานทั้งหมด ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซดังกล่าวในปี 2015 ได้ถึง 38,400,000 เมตริกตันเลยทีเดียว ที่สำคัญยังตั้งเป้าหมายใช้พลังงานสะอาดสำหรับโรงงาน สโตร์ และ Data Center ทั้งหมดทั่วโลก




นอกจากนั้น Apple ยังเน้นการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีขนาดกะทัดรัดซึ่งทำให้การใช้ปริมาณกระดาษ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ อย่าง iMac ขนาด 21.5 นิ้วลดการใช้กระดาษไปได้ 53 เปอร์เซนต์ ขณะที่ iPhone 6s ลดการใช้กระดาษ 34 เปอร์เซนต์ เป็นต้น โดยกระดาษที่นำมาทำบรรจุภัณฑ์เป็นกระดาษรีไซเคิลถึง 99 เปอร์เซนต์ อีกทั้งร่วมเป็นพันธมิตรกับกองทุนอนุรักษ์ Conservation Fund ซึ่งทำงานรักษาป่าไม้ 36,000 เอเคอร์ในรัฐเมนและนอร์ทแคโรไลน่า ทั้งยังร่วมมือกับ WWF ในการฟื้นฟูป่าในประเทศจีน แถมตั้งเป้าหมายการบริหารจัดการป่าไม้อย่างมีประสิทธิภาพบนพื้นที่ 1 ล้านเอเคอร์ภายในปี 2020 อีกด้วย




ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและทำงานหนักของ Apple ในการสร้างผลิตภัณฑ์เพื่ออนาคตซึ่งเปี่ยมด้วยนวัตกรรมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

YOU MAY ALSO LIKE