BACK TO EXPLORE

It’s Not Just An Art But Therapy

เคยสงสัยไหมว่าทำไมมองดูงานศิลปะบางชิ้นแล้วรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก หลายคนบอกว่าการมองภาพสวยๆ สักภาพ ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังมีความรัก ภาพหนึ่งภาพส่งผลมหาศาลต่อจิตใจของคนเราขนาดนั้นได้อย่างไร แล้วถ้างานศิลปะ ที่เรามองเห็นตรงหน้าไม่ได้เป็นเพียงงานศิลปะตั้งโชว์ชิ้นหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่มีคุณค่าเทียบเท่ากับการบำบัดจิตขั้นสูงที่ไม่มี เครื่องมือทางการแพทย์ใดๆ สามารถทำได้เหมือนล่ะ

หากคุณเป็นคนที่รักงานศิลปะเป็นชีวิตจิตใจ แน่นอนว่าย่อมต้องรู้สึกอยู่เสมอว่าศิลปะนั้นคือสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิต และจิตวิญญาณของคนเรา นั่นอาจเคยเป็นเพียงความรู้สึก แต่วันนี้มีสิ่งที่จะช่วยยืนยันอย่างเป็นทางการว่าสิ่งที่คุณรู้สึกนั้น ไม่ได้เป็นเพียงความรู้สึกที่ไร้ข้อพิสูจน์ ตั้งแต่ศาสตราจารย์ Semir Zeki อาจารย์ประจำภาควิชา Neurobiology and Neuroesthetics จาก University College London ออกมายืนยันถึงผลของงานศิลปะที่เกิดขึ้นต่อสมอง ว่าเมื่อคนเราได้เห็น งานศิลปะที่เรามอง ว่าสวย เมื่อนั้นศูนย์ควบคุมความพึงพอใจในสมองจะมีตอบสนองเป็นพิเศษ สมองจะกระตุ้น ให้เกิดการหลั่งสารโดพามีน เป็นสารแห่งความสุขที่ทำให้รู้สึกเบิกบาน ซึ่งเป็นปฏิกิริยาเดียวกันกับการตกหลุมรัก เรียกได้ว่าความรู้สึกเวลาได้เจองานศิลปะ ที่ถูกใจนั้นเทียบเท่ากับการได้เจอเนื้อคู่เลยก็ว่าได้ ร้านค้าบางร้านเลือกสร้าง ประสบการณ์ดีๆ ให้กับลูกค้าที่เดินเข้ามาในร้าน ด้วยการรายล้อมผลงานศิลปะสีสันสดใส ลวดลายสวยเก๋ไว้ทั่วบริเวณ ถึงแม้คุณจะเดินออกจากร้านโดยไม่ได้ซื้อของกลับไป แต่สิ่งหนึ่งที่คุณจะได้คือจิตใจที่เบิกบานเปี่ยมสุข



อิทธิพลของงานศิลปะต่อจิตใจของคนเราไม่ได้เกิดขึ้นจากการได้เสพเพียงอย่างเดียว แต่การสร้างสรรค์งานศิลปะก็มีอิทธิพล ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ศิลปะถูกนำไปใช้ทางการแพทย์ในการบำบัดผู้ป่วยที่มีความผิดปกติ ด้านจิตใจและสมอง อย่างผู้ป่วยที่มีอาการ ของโรคซึมเศร้า ไบโพลาร์ พาร์กินสัน หรือแม้แต่ผู้ป่วยออทิสติกเองก็สามารถเข้ารับ การบำบัดด้วยศิลปะเพื่อให้จิตใจนิ่ง และสงบลงได้ หลายคนอาจสงสัยว่าการสร้างงานศิลปะจะช่วยรักษาโรคได้จริงหรือ ทางการแพทย์ยืนยันว่าสามารถทำให้ ผู้ป่วยหายเร็วขึ้นจริง เพราะผู้ป่วยที่มีอาการของโรคเหล่านี้ส่วนใหญ่จะประสบปัญหา เรื่องการสื่อสาร พวกเขาไม่สามารถอธิบาย อารมณ์ ความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดได้ ผู้ป่วยออทิสติกและผู้ป่วยโรคไบโพลาร์หลายรายเลือกแสดงความรู้สึกด้วยการกรีดร้อง หรือแสดงพฤติกรรมรุนแรงเพื่อเป็นการระบายความอัดอั้นที่มีอยู่ในใจ เนื่องจากความรู้สึกบางอย่างนั้นอยู่ลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึก ที่แม้แต่ตัวผู้ป่วยเองก็ยังไม่รู้ตัว การแสดงความรู้สึกผ่านผลงานศิลปะทำให้ผู้ป่วยได้ปลดปล่อยความเครียดส่วนลึกในจิตใจ กระทั่งทหารผ่านศึกในสหรัฐอเมริกาส่วนหนึ่งก็เคยใช้ศิลปะบำบัดเพื่อฟื้นฟูจิตใจหลังสงคราม ไม่น่าเชื่อว่าศิลปะช่วยขจัด ความเครียดในจิตใต้สำนึกของทหารเหล่านี้ออกไปได้จนหมดสิ้น พวกเขาสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ฝันร้าย เกี่ยวกับสงครามอีกเลย



งานศิลปะไม่ได้เป็นเพียงของสวยๆ งามๆ ที่มีไว้เพื่อประดับตกแต่งเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการทำงานของสมองและสภาพจิตใจ ของคนเราได้อย่างน่าทึ่ง เมื่อไรที่คุณรู้สึกเครียด เศร้า หรือไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ลองหันมาพึ่งศิลปะบำบัดดูสิ อาจจะวาดภาพ แสดงความรู้สึก หรือลองไปเดินดูงานศิลปะในแกลอรี่บ้างก็ได้ ทั้งนี้งานศิลปะดีๆ ไม่ได้จำกัดเฉพาะบนผืนผ้าใบ เท่านั้น ศิลปะนั้นอยู่รอบตัวเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็นลายพิมพ์สุดน่ารักบนรองเท้า ที่ทำให้จิตใจของคุณสดใสทุกครั้งที่ก้มมอง แม้แต่ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องประดับที่มีดีไซน์ ก็ช่วยให้อารมณ์ของผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านสดชื่นขึ้น หรือนี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่หลายคนเลือกบำบัดความเครียดด้วยการช็อปปิ้ง ก็เพราะโดพามีนมันหลั่งเวลาได้เห็นของสวยน่าสอย เปรียบได้กับเวลาที่ เสพงานศิลปะที่ถูกใจไม่มีผิด

 

Credit :
PHOTOS : www.mymodernmet.com, www.medicalxpress.com, dhub.org/marimekko-opens-flagship-stores-in-sydney-and-melbourne/, Facebook : Pretty Ballerinas Thailand, www.mullerofyoshiokubo.jp and www.chloe.com

YOU MAY ALSO LIKE