Bruno Mars’ Style Evolutionวิวัฒนาการด้านสไตล์ของป๊อปไอคอนชาวฮาวายแห่งทศวรรษนี้
เดี๋ยวนี้ไม่ว่าคุณจะนั่งอยู่ในร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือในงานปาร์ตี้อีเวนท์ต่างๆ ทุกคนต้องได้ยินบทเพลงของ Bruno Mars ป๊อปไอคอนแห่งยุค 2010’s เปิดอยู่ในไม่อย่างน้อยต้องมี 1 เพลง กับบรรดาเพลงฮิตติดชาร์ตอย่าง “Uptown Funk” / “24K Magic” หรือบทเพลงจากอัลบั้มแรกๆที่ยังคงมีคนเปิดกัน “Just the way you are” / "Grenade” / “The lazy song” เป็นต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ใครจะไปรู้ว่าศิลปินที่มากด้วยทักษะรอบด้าน ทั้งการร้อง การเต้น รวมไปจนถึงการแต่งเพลงด้วยตนเอง มีวัยเด็กที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เขาคือนักแสดงเลียนแบบ Elvis ฉบับรุ่นจิ๋ว ที่ใครได้เห็นเป็นต้องหลงรัก (หากใครไม่เชื่อลอง Google ดูได้) ดูท่าว่าลีลาการแต่งตัวน่าจะจัดจ้านมาตั้งแต่เด็กแบบนี้ เรามาดูการเดินทางเพื่อขึ้นมาสู่จุดยืน ที่ปัจจุบันเราเรียกได้เต็มปากว่า ป๊อปสตาร์คนสำคัญของทศวรรษ
“ทุกๆวันผมตั้งใจแต่งตัวให้เข้ากับเพลงหรืองานที่ผมจะทำในสตูดิโอแต่ละครั้ง หากผมแต่งตัวมาแบบสบายๆใส่กางเกงวอร์ม เหมือนอยู่บ้าน เพลงก็จะออกมาแบบนั้น ผมว่าเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญมากที่สุด”
-Bruno Mars-
Here comes the Doo Wop
ในปี 2010 หลังจากโลกได้รู้จักกับหนุ่มผิวแทนเสียงใส ในเพลง Nothing on You ที่เขาทำงานร่วมกันกับศิลปินฮิปฮอปนามว่า B.o.B. แล้วก็ดังเป็นพลุแตก เมื่อมาถึงคิวออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก Doo Wop And Hooligans สไตล์ที่เราสัมผัสได้จากเขาจนเรียกได้ว่าเป็นยูนิฟอร์มประจำตัวของ Bruno Mars อย่างแรกเลยคือ ชิ้นส่วนบนอย่างหมวกทรง Fedora ที่เราคงไม่ต้องบรรยายถึงสรรพคุณความคลาสสิคตลอดกาล ไม่ว่าจะลุคทางการหรือจะออกงานอะไร เขาก็ใส่ไปจนทุกคนคุ้นตา จะเล่นคอนเสิร์ตหรือถ่าย MV จุดเด่นที่สำคัญอย่างยิ่งอีกชิ้นใน Bruno Mars ช่วงเวลานี้ คือเสื้อนอกชิ้นหลัก ชนิดพวก Leather Jacket หรือ Biker Jacket จับคู่กับเสื้อยืด กางเกงทรง Slim Fit และรองเท้าที่คุ้นตากันอย่าง Converse เป็นลุคที่ดูสบายๆแต่ก็เห็นแล้วจำได้
The Unorthodox Classic
รูปซ้าย: Bruno ในงาน BET Awards 2011 ด้วยชุดทักซิโด้จาก Dolce&Gabbana
รูปกลาง: Bruno ที่งาน Grammys ปี 2011 ด้วยชุดสูทที่สั่งตัดโดย Thom Browne
จนมาถึงสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 2 วงการเพลงก็ต้องทำความเข้าใจหนุ่ม Bruno ในด้านที่มีความทางการขึ้นมาบ้าง กับภาพลักษณ์ที่ออกมาเป็นหนุ่ม Dapper เนี้ยบและเฉียบกว่าเดิม แต่ไม่ทิ้งความจัดจ้านที่มีติดตัว เราเริ่มเห็นสูทที่มีการคุมโทน และมักจะใช้สีขาว ดำ เทา เป็นส่วนใหญ่ การผูกไทในเวลาร่วมงานต่างๆและในทุกๆคอนเสิร์ตที่เขาต้องแสดงดนตรี ให้ความรู้สึกถึงวุฒิภาวะทั้งการวางตัวและเรื่องดนตรีไปพร้อมๆกัน ที่สำคัญที่สุดเลย Bruno ในช่วงนี้ช่วยสอนเราอย่างดีเรื่องของการจัดเซตทรงผม Pompadour ที่ช่วยเพิ่มคาแรคเตอร์ เรามองว่าหนุ่มๆทั่วโลกในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ต่างต้องได้รับอิทธิพลมาจาก Bruno ด้วยภาพของเขาที่ปรากฎอยู่ในทุกๆที่ของชีวิต ไม่มากก็น้อย
Uptown Gets Funky
รูปกลาง: Bruno ขณะรับรางวัลที่งาน Grammy Awards ครั้งที่ 58 กับชุดสั่งตัดจาก Versace
รูปขวา: Bruno ขณะเล่นเพลง “Runaway Baby” ที่งาน Grammys ปี 2012 ด้วยชุดที่สั่งตัดโดย Dolce & Gabbana จากหัวจรดเท้า
เป็นเรื่องดีที่ซิงเกิ้ลร่วมกันกับ Mark Ronson ช่วยทำให้สไตล์ของ Bruno ตกผลึกออกมาชัดเจนขึ้นมาอีก สิ่งที่โดดเด่นในลุคของเขาช่วงนี้ ถัดมาจากความสำเร็จที่ได้รับจากอัลบั้มชุดที่ 2 มาหมาดๆ เห็นจะเป็นเสื้อผ้าอิทธิพลจาก 70’s ที่ล้วนมีความสนุกทุกๆครั้งที่ชายคนนี้ปรากฎอยู่ในรูปถ่ายทั้งบนเวทีและตามท้องถนน ความกล้าได้กล้าเสียในเรื่องเลือกใช้โทนสีที่คนทั่วไปไม่มีใครกล้าหยิบมาใส่ เป็นสไตล์ในแบบที่เรานึกถึงเมือง Havanaในประเทศคิวบา โซนอเมริกาใต้ที่เป็นทวีปเขตร้อน นอกจากความเป็นตัวเองในเสียงดนตรี แนวเพลง มิวสิควิดีโอ เมื่อเสื้อผ้าดังกล่าวได้มาอยู่บนตัวของหนุ่มฮาวายคนนี้แล้ว มันยิ่งดูมีชีวิตชีวาแบบใครก็ลอกเลียนแบบไม่ได้ ตัวอย่างจากชุดชมพูตัวเก่งในมิวสิควิดีโอ Uptown Funk หรือแม้แต่การปรากฎตัวไปรับรางวัล ล้วนบอกเราได้เลยว่า Mr. Bruno คนนี้เขาคิดมาแล้ว
Lay Down His 24K Magic
รูปซ้าย: Bruno Mars ปรากฎตัวในงาน MTV VMAs (Video Music Awards) ปี 2015 ด้วยเสื้อเชิ้ตจาก Versace
อัลบั้มล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2016 ที่กำลังจะจบลงไปนี้ Bruno Mars เฉิดฉายอย่างมีจุดยืนสมฐานะป๊อปไอคอนที่ให้ความสำคัญเรื่องดนตรีและเรื่องแฟชั่นการแต่งตัวในโลกที่หมุนไป ทั้งการจัดมินิคอนเสิร์ตในงานเปิดตัวแฟชั่นโชว์ หรือการมีชื่อเพลงอย่าง Versace On the Floor ที่แสดงออกถึงความสนใจที่มีต่อโลกแฟชั่น มาถึงขั้นนี้แล้ว หากถามถึงเรื่องสไตล์การแต่งตัว เราสรุปได้คำเดียวว่า มันเป็นการแสดงออกถึงความเป็นรุ่นใหญ่ที่สุดหากเทียบกับแต่ละลุคในปีที่ผ่านมาๆ ทรงผมที่ในช่วงหลังนี้ เขาปรากฎตัวพร้อมกับผมหยิกทรงแอฟโฟรธรรมชาติอันเป็นความภาคภูมิใจจากเกาะฮาวายของเขา เสื้อผ้าที่มีความโดดเด่นเรื่องผิวสัมผัสและลวดลายของเนื้อผ้า อย่างเช่นเสื้อ Barocco จาก Versace ที่เขาชื่นชอบ กางเกงขาสั้นที่เข้าคู่กัน หน้าปกอัลบั้ม 24K Magic บรรยายสไตล์ของ Bruno ในปัจจุบันได้ดีที่สุด
จากนี้ต่อไป เรามองว่าเส้นทางสายดนตรีของศิลปินมากฝีมือผู้นี้ ยังไม่เห็นปลายทางในเวลาอันใกล้นี้แน่นอน และน่าสนใจว่าในทางดนตรีและการแต่งตัว เขาจะมีเซอร์ไพรส์อะไรออกมาให้เราทึ่งได้อีก ร่วมมองหาสไตล์ในแต่ละยุคสมัยของ Bruno Mars ไปกับเสื้อผ้าคอลเลคชั่นจากหลากหลายแบรนด์ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ เลือกสรรมา ได้แล้ววันนี้