BACK TO EXPLORE

Home Away from Home

เมื่อรู้ตัวอีกทีก็ค้นพบว่าหน้ากระดาษในหนังสือเดินทางของเราเต็มไปด้วยตราประทับของแต่ละประเทศไม่ซ้ำกัน ทำไมสิ่งนี้ถึงกำลังเกิดขึ้นเยอะในคนรุ่นใหม่? คงไม่ใช่เป็นเพียงเทรนด์ที่เข้ามาและผ่านไปอย่างรวดเร็วแน่นอน

หนึ่งในคำศัพท์ที่มักได้ยินอยู่บ่อยตามสื่อต่างๆช่วงหลังมานี้ “Wanderlust”
เราสามารถเรียกอีกอย่างได้ว่านี่คือ ภาวะของความหลงใหลในการออกเดินทาง
เมื่อรู้ตัวอีกทีก็ค้นพบว่าหน้ากระดาษในหนังสือเดินทางของเราเต็มไปด้วยตราประทับของแต่ละประเทศไม่ซ้ำกัน
ทำไมสิ่งนี้ถึงกำลังเกิดขึ้นเยอะในคนรุ่นใหม่? คงไม่ใช่เป็นเพียงเทรนด์ที่เข้ามาและผ่านไปอย่างรวดเร็วแน่นอน


เครดิต http://thevintagenotebook.com/page/58/


เพราะหลากหลายสื่อในโลกเวลานี้ต่างก็พูดถึงประเด็นของการออกไปนอกบ้าน
อย่างแรกที่สังเกตได้ชัดก็คือ ส่วนของโลกภาพยนตร์ที่มี หนังเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ออกเดินทาง มากมาย
หรือแม้แต่จะเป็นเทรนด์ของสื่อสิ่งพิมพ์จากประเทศต่างๆที่หลั่งไหลเข้ามาสู่การรับรู้ของคนอ่านกว้างขวางขึ้น
การนำเสนอเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ไปพบกับแลนด์สเคปที่ตื่นตาตื่นใจใหม่ๆ
ทั้งเมืองที่สถาปัตยกรรมน่าสนใจจากอีกมุมโลก หรือจะเป็นภูเขา ทะเลที่ไม่เหมือนกันในทุกทวีป
ดูจะเป็นสิ่งที่ถูกหยิบยกมากล่าวถึงตอนนี้




หลากหลายภาพยนตร์ที่พูดถึงการเดินทางก็มักเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจสำคัญของใครหลายคน
(ซ้ายไปขวา) The Darjeeling Limited / Paris, Texas / Into The Wild




Independent Magazine จากประเทศต่างๆที่พูดถึงการเดินทาง ในยุคนี้มีช่องทางเข้าหาผู้อ่านมากขึ้น
(ซ้ายไปขวา) The Travel Almanac / The Collective Quarterly / Another Escape


สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก่อนว่าตอนนี้เราอยู่ในโลกที่การสื่อสารข้ามประเทศเป็นเรื่องแค่ปลายนิ้ว
การเดินทางระหว่างทวีปที่ทุกวันน็มีี้ตัวเลือกช่องทางให้ใช้บริการมากมาย
ช่องทางที่ว่าด้วยเรื่องของค่าใช้จ่ายหากแต่ใช่เรื่องของเส้นทางการบินที่มีตอบโจทย์อยู่แล้ว
เรียกได้ว่าการเดินทางออกนอกประเทศเป็นเรื่องที่ถือว่าใกล้ตัวมากเข้าทุกทีในโลกยุคนี้




"We'd only been gone for two days but somehow the town seemed different; smaller.”
เราหยิบยืมคำพูดจากฉากจบ Stand by me (1986) ภาพยนตร์ยุค 80s ที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายคน
ทุกครั้งที่เราได้ยินก็ยังเชื่อว่าสามารถใช้โควทสรุปก้อนความรู้สึกเวลากลับจากการเดินทางในทุกๆครั้ง
และนี่คงเป็นเหตุผลที่ทำไมใครหลายคนถึงหลงใหลในการเดินทางไปที่ที่ห่างไกลจากบ้าน
เพราะมันเป็นการเตือนสติได้อย่างดีว่า โลกข้างนอกที่รอให้เราค้นหานั้นยังมีอีกมากมาย
หากแต่เพราะความเคยชินและกิจวัตรในทุกๆวันที่ปรับให้โลกในชีวิตประจำวันเป็นโลกที่เราเห็นภาพว่ามีอยู่เท่านี้
เท่าที่เป็นพื้นที่ให้เราทุกคนใช้ชีวิตที่มุ่งมั่นและเต็มที่ ด้วยฉากของสถานที่คุ้นชิน

ออฟฟิซ ห้องทำงาน บ้าน สถานที่แฮงก์เอาท์กับเพื่อนฝูง ที่เป็นเส้นทางเฉพาะของทางแต่ละคน


(http://thetangential.com/2012/01/11/an-updated-list-of-kerouac%E2%80%99s-30-writing-essentials/)

นักเขียนคนสำคัญของศตวรรษที่ 20 หลายครั้งที่ผลงานของเขาถูกหยิบยกมาเป็นสาระสำหรับนักเดินทาง

แล้วการเดินทางสามารถให้อะไรกับคนๆหนึ่ง?
การเดินทางมาพร้อมกับแรงบันดาลใจใหม่ๆ
ข้อนี้น่าจะเป็นจุดที่น่าจะเชื่อมโยงกับความเข้าใจได้ง่ายที่สุด
เพราะการไปเห็นหรือรับรู้ คือการเติมแต่ง Reference ที่เรามีอยู่ในตัวเองได้อย่างเข้าถึงและตรงตัวที่สุด
จะด้วยตาที่มองเห็น หูที่ได้ยิน หรือรูปรสที่ได้รับทางโสตประสาทไหนๆก็ตาม
และไม่ว่าจะข้องเกี่ยวหรือทำงานอยู่ในศาสตร์หรือแขนงประเภทใด
สิ่งที่อยู่รอบตัวในสถานที่ต่างๆล้วนเป็นอาหารต่อแรงบันดาลใจชั้นดี
ที่สำคัญคือเป็นเฉพาะต่อตัวบุคคลที่ไม่มีใครสามารถแย่งชิงและเข้าใจได้




ผลงานภาพถ่ายจากหนังสือ The Americans งานชุดสร้างชื่อของช่างภาพชื่อดัง Robert Frank
ที่เขาเดินทาง Road Trip ถ่ายภาพขาวดำทั่วสหรัฐอเมริกา
แม้การออกเดินทางในความหมายที่เราอธิบายถึง
ไม่ได้วัดกันด้วยระยะทางจากบ้านที่ยืนอยู่เป็นร้อยหรือพันกิโลเมตร
หากแต่เป็นเพียงการออกไปในที่ที่นอกเหนือ ”พื้นที่” ของเรา ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำความเข้าใจได้ไม่ยากแล้ว
เราทิ้งท้ายกันโดยไม่จำเป็นต้องพูดกันด้วยน้ำเสียงใจแคบว่า ทางเลือกที่ ฉลาดกว่า คือ
“การเดินหนีจากชีวิตอันจำเจและโลกน่าเบื่อใบเดิมเพื่อไปค้นพบอะไรใหม่ๆนอกกรอบ”
เพราะนั่นคงเป็นคำกล่าวตื้นเขินที่ใครก็ คงพูดได้
ถ้าเพียงแค่คำว่า “ออกไปเที่ยว” ก็ยังฟังดูแล้วยังเป็นมิตรกับทุกสถานการณ์ในชีวิตนี้
ท้ายที่สุดแล้วคำถามที่ถูกคือ เราเอาตัวเองออกไปอยู่ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ มากพอแล้วแค่ไหนกัน?
Credit :
Credit : http://frezned.tumblr.com/post/21976111242/lestercorp-the-darjeeling-limited

YOU MAY ALSO LIKE