BACK TO EXPLORE

Meet Selvedgework Designer

ในวัยเด็กของ ‘บูม’ - วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ ก็ไม่ต่างกับเด็กผู้ชายคนอื่นๆ ที่สนใจเรื่องต่างๆ และใช้ชีวิตเพื่อตามหาสิ่งตัวเองรัก จนกระทั่งเขามีโอกาสเดินทางไปดูการตัดเย็บกางเกงยีนส์ที่ประเทศเยอรมัน และนั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความฝันในการสร้าง Selvedgework แบรนด์กางเกงยีนส์ที่ตัดเย็บอย่างพิถีพิถันแบบตัวต่อตัว เพื่อให้เหมาะเจาะกับสรีระของคนแต่ละคน จนได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม

“เราเรียน Marketing BBA อยู่ชั้นปีที่ 3 ตอนนั้นเขาก็ลองให้เราทำ  Business plan ซึ่งเราเกิดไอเดียหนึ่งขึ้นจากการที่ช่วงนั้นเราคลุกคลีกับกางเกงยีนส์เยอะ เพราะเมื่อก่อนเราพักอยู่ในตึกแถวที่มีคนเย็บกางเกงยีนส์อยู่ชั้นบนซึ่งกลิ่นมันจะแรง การคลุกคลีแบบนั้นมันปลูกฝังเราโดยตรงเหมือนกัน พอมองหาว่าเราชอบอะไร พบว่าเราชอบพวกศิลปะ หรือพวกกางเกงยีนส์ ตอนช่วงเรียนก็เริ่มทำกางเกงขาเดปใส่เอง ใส่ซิปตรงขา และทำรอยขาดให้กางเกงสีดำ ซึ่งช่วงนั้นเรามีโอกาสได้ไปงานกางเกงยีนส์งานใหญ่มาก ที่ประเทศเยอรมัน เราเห็นเวิร์กช็อปการเย็บกางเกงยีนส์ต่อหน้า ซึ่งเรารู้สึกอินจนบอกไม่ถูก มันเป็นประสบการณ์ที่เราเดินเข้าไปแล้วรู้สึกว่ามันเท่จัง ซึ่งมันจุดไฟให้เราว่าโมเดลนี้มันน่าสนใจ”


เมื่อความกระตือรือร้นพุ่งขึ้นจนถึงระดับที่อยู่เฉยไม่ได้แล้ว กางเกงยีนส์ตัวแรกของ  Selvedgework ก็ได้เกิดขึ้นมา โดยไม่กลัวต่ออุปสรรคใดๆ ที่จะมาทำลายความฝันของเขา

“เราทำกางเกงยีนส์ขายทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เปิดร้าน ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เป็นคนขี้กลัว เป็นคนไม่กล้า กลัวว่าแผนที่วางไว้จะล่ม กางเกงยีนส์ทำให้เราหาเงิน 6 หลักมาได้เป็นครั้งแรกในชีวิต เราตื่นเต้นมาก เรากลัวมาตลอดว่าคนซื้อเขาจะชอบกางเกงยีนส์ไหม พอพวกเขาเอาไปใส่ พวกเขาเป็นเหมือนคนคอยส่งพลังให้เราเลิกวิตกกังวล และมองต่อไปข้างหน้าว่าจะไปทางไหนได้บ้าง จนผมได้มาเปิดหน้าร้านที่สยามสแควร์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว”




การซื้อขายบนอินเทอร์เน็ตเป็นเทรนด์ของการค้าขายที่มาแรงที่สุดตอนนี้ ซึ่งใครที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองก็สามารถตั้งร้านค้าออนไลน์ขึ้นมาได้ง่ายๆ แต่เขาก็ยังมองว่าการมีหน้าร้านนั้นก็ยังสำตัญไม่แพ้กัน

“หน้าร้านทำให้ลูกค้าจับต้องผลิตภัณฑ์ของเราได้ ซึ่งดิจิทัลจะทำได้แค่ดูอย่างเดียว และสินค้าของเราเป็นงาน costume made ด้วย มันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ลูกค้าต้องเห็นผลิตภัณฑ์ของเรา และในเรื่องของแบรนด์นั้นเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้ทำกันเล่นๆ นะ เรามีร้าน ซึ่งหน้าร้านก็ช่วยส่งเสริมให้แบรนด์แข็งแรงขึ้น การทำร้านค้าออนไลน์ก็ไม่ใช่ว่าจะแข็งแรงไม่ได้ ก็ต้องดูด้วยว่าเราวาง  business model ไว้ในทางไหน จริงๆ การทำร้านค้าออนไลน์นั้นก็มีข้อดีเยอะมาก เราสามารถจับกลุ่มลุกค้าได้ทั่วโลกเลยด้วยซ้ำ โดยใช้ต้นทุนไม่สูง แต่ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ เหมือนกัน”




Selvedgework ที่กำลังเติบโตอย่างช้าๆ แต่มันคงอยู่ในตอนนี้ เป็นสิ่งที่วิชพงษ์มองว่าเป็นความสุขที่เขาต้องการ แต่แน่นอนว่าความฝันที่ชายคนนี้มีนั้นจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้


“ผมได้ทำงานที่ตัวเองรู้สึกอิสระ ถ้าเราทำอะไรที่เราไม่ชอบหรืออึดอัด ผมว่ามันคือสิ่งที่ไม่ใช่ มันไม่จำเป็นต้องชอบที่สุดแต่เราต้องไม่อึดอัด เพราะทุกคนเลือกได้ เราจะเอาตัวเองไปอยู่ในสิ่งที่เราอึดอัดทำไม เรามาทำสิ่งที่เราแฮปปี้ดีกว่า และผมเองก็อยากขยายสาขาในประเทศปีนี้ให้ได้สัก 1-2 สาขา และจับตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น”


สามารถมาสัมผัสความพิถีพิถันในแบบของ Style Maker คนนี้ได้ที่ Selvedgework ที่ CAZH ชั้น 1 สยามดิสคัฟเวอรี่

YOU MAY ALSO LIKE