BACK TO EXPLORE

Coleman จากตะเกียงคุณปู่สู่แบรนด์ที่อุ้มชูวัฒนธรรมแคมป์ปิ้งของรุ่นหลาน

Coleman จากตะเกียงคุณปู่สู่แบรนด์ที่อุ้มชูวัฒนธรรมแคมป์ปิ้งของรุ่นหลาน 
Coleman คือที่สุดแห่งยอดแบรนด์สายเอาท์ดอร์สัญชาติอเมริกันในอายุกว่า 120 ปี

ในวันที่ยังไม่มีไฟฟ้า ชีวิตยามค่ำของอเมริกาสว่างไสวขึ้นด้วยตะเกียง Coleman
ในวันที่ต้องรักษาระยะห่าง เราก็ออกแคมป์สไตล์ ‘Solo Camp’ ด้วยอุปกรณ์ใช้ชีวิตกลางแจ้งของ Coleman กว่าร้อยปีที่ผ่านมา ตะเกียงน้ำมัน เตาสนาม คูลเลอร์ เต๊นท์ ถุงนอน โต๊ะพับ ไปจนถึงตะเกียงแบตเตอรี่ ของ Coleman เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผู้คนทั่วโลก ทั้งบรรดาผู้ที่ใช้ชีวิตสมบุกสมบัน หรือแม้กระทั่งนักสะสมที่ตามหาตะเกียงรุ่นเก่าสลักหลังว่า Made in U.S.A. ในราคาที่ต้องตกตะลึง ต่อไปนี้คือ 7 เรื่องของ Coleman ที่ทั้งบอกเล่าความเป็นมาและบันดาลใจให้คุณได้ออกแรงใช้ชีวิตกลางแจ้ง หรือลองทำตามฝันดูสักครั้ง

1. Coleman เกิดขึ้นจากเซลส์ขายเครื่องพิมพ์ดีดที่หันมาเล่นกับไฟ
William Coffin Coleman ผู้ก่อตั้งแบรนด์เป็นเซลส์เร่ขายเครื่องพิมพ์ดีดในรัฐแอละบามา ระหว่างทางกลับบ้าน เขาเห็นแสงสีขาว คมชัด เสถียรไม่วูบไหวจากตะเกียงของร้านขายยา ซึ่งแตกต่างจากตะเกียงคีโรซีนที่ให้แสงสีเหลืองริบหรี่ในยุคต้นศตวรรษที่ 20 แสงจากตะเกียงน้ำมันสว่างในระดับที่เขาสามารถอ่านฉลากยาตัวเล็กๆ ได้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่เขาเหมาตะเกียงน้ำมันมาขายแทนเครื่องพิมพ์ดีด ก่อนจะผลิตตะเกียง Coleman รุ่นแรกในปี 1903


2. แบรนด์ที่เล่นใหญ่มาตั้งแต่ปี 1905 ด้วยการสปอนเซอร์ไฟในสนามอเมริกันฟุตบอล
ต่อมาในปี 1905 Coleman เห็นว่าผู้คนยังไม่เข้าใจการใช้งานตะเกียงสักเท่าใดนัก เขาจึงนำเสนอ Coleman Ark Lamp ตะเกียงน้ำมันรุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัทด้วยการเป็นสปอนเซอร์ไฟส่องสว่างในคืนแรกของเกมส์อเมริกันฟุตบอลในเมือง ผลคือทีมเจ้าบ้านชนะขาดลอยด้วยคะแนน 24-0 และนั่นทำให้ตะเกียง Coleman เป็นที่รู้จักในหมู่คนท้องถิ่น


3. แบรนด์ผู้เปลี่ยนชีวิตของเกษตรกรอเมริกันด้วยแสงสว่างจากตะเกียง 300 แรงเทียน
ช่วงทศวรรษที่ 1900 ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึงพื้นที่ชนบท เกษตรกรจีงต้องทำงานตามตะวันตื่นและหยุดพักเมื่อตะวันตกดิน Coleman ได้พัฒนาตะเกียงน้ำมันขนาด 300 แรงเทียนที่ทนทานต่อทุกสภาพอากาศและส่องสว่างได้ถึง 100 หลาขึ้นในปี 1914 ผลคือแสงจากตะเกียงเพิ่มชั่วโมงการทำงานให้เกษตรกร ทำให้พลวัตรการทำการเกษตรของชนบทอเมริกันเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง



4. ตะเกียง Coleman คือของจำเป็นในสงครามโลกครั้งที่ 1
แสงสว่างของตะเกียงน้ำมันจาก Coleman ช่วยส่องทางให้ทหารอเมริกันที่ไปออกรบในทวีปยุโรป โดยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่างปี 1914 - 1917 ตะเกียง Coleman ถูกประกาศให้เป็นของจำเป็นของกองทัพ ซึ่งมีการสั่งซื้อกว่า 70,000 ดวง ทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์ดังข้ามน้ำไปยังยุโรป


5. จากตะเกียงสู่ ‘เตาสนาม’ ในสงครามโลกครั้งที่ 2
ไม่ถึง 20 ปีให้หลังในปี 1942 Coleman ผลิตนวัตกรรมเตาสนามขนาดเล็กกว่าขวดนม 32 ออนซ์ น้ำหนัก 3.5 ปอนด์ ติดไฟได้ทุกเชื้อเพลิง และใช้งานในสภาพอากาศสุดขั้วตามคำสั่งของกองทัพอเมริกัน เพื่อนำไปใช้ในค่ายที่อัฟริกาเหนือในสงครามโลกครั้งที่ 2 เตาสนามของ Coleman จึงคล้ายสัญลักษณ์แทนความเป็นอเมริกันในสงคราม และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสองสิ่งสำคัญที่ไม่เกี่ยวกับการสู้รบในสงคราม เมื่อสงครามสิ้นสุด ชื่อของ Coleman จึงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก



6. แบรนด์แห่งวัฒนธรรมแคมป์ปิ้งที่มาก่อนกาล
เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ผู้คนเริ่มรู้จัก Coleman ในฐานะผู้ผลิตเตาสนามมากขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจอเมริกาเริ่มพุ่งทะยาน โครงสร้างถนนพร้อมเชื่อมโยงระหว่างรัฐ และราคารถยนต์เริ่มจับต้องได้ วิถี Car Camping หรือวัฒนธรรมการออกแคมป์จึงเริ่มเบ่งบาน โดย Coleman เร่ิมจับตลาดวิถีชีวิตกลางแจ้งอย่างจริงจังและปรับทิศทางธุรกิจให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตในยุคนั้น เช่น ออกผลิตภัณฑ์เตาสองหัวขึ้นเพื่อให้การปรุงอาหารได้ไว้ขึ้น พัฒนาคูลเลอร์ที่พลิกโฉมถังเก็บความเย็นไปตลอดกาลด้วยการเปลี่ยนวัสดุจากเหล็กหนักให้เป็นพลาสติกคุณภาพสูง ออกแบบฉนวนเก็บความเย็นที่บันดาลใจจาก ‘ฟองสบู่’ เป่าพลาสติกให้เป็นทรงกลม น้ำหนักเบา และทำความสะอาดง่าย ต่อมายังผลิตเต๊นท์ธรรมดา เต๊นท์ที่เชื่อมต่อได้ ถุงนอน และระบบไฟแบตเตอรี่ นับแต่นั้นมาทั้งอุปกรณ์ภาคสนามของ Coleman ถือเป็นเพื่อนในอุดมคติของชีวิตแคมป์ปิ้งที่หลายคนหลงใหล



7. แบรนด์ที่ทำให้คนเหงามีที่ยืนด้วยวิถี ‘Solo Camping’
‘Solo Camping’ ถือเป็น 1 ใน 10 buzzword หรือคำค้นที่มีผู้ใช้ค้นหามากที่สุดในปี 2021 ด้วยการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนต้องรักษาระยะห่าง Coleman จึงพัฒนาขนาดเต๊นท์และอุปกรณ์แคมป์ปิ้งสำหรับผู้ลุยเดี่ยว กอดธรรมชาติได้ง่ายๆ ในภาระที่ลดลง อาทิ ชุดทำแซนด์วิช โต๊ะพับ และเต็นท์บังแสง (Dark room)
จากตะเกียงที่พลิกชีวิตของในชนบทห่างไกลเมื่อร้อยปีก่อน วันนี้แสงจากตะเกียง Coleman ได้ส่องสว่างไปทั่วทุกมุมโลก และยังมีผลิตภัณฑ์หลากหลายเพื่อเป็นเพื่อนแท้ของนักเดินทางในการผจญภัยสุดขั้ว ทั้งการเดินทางสู่ใจกลางทะเลซาฮารา ทีมนักสำรวจขั้วโลกใต้ เป็นแสงสปอตไลต์สำหรับการลงจอดบนยอดเทือกเขาแอนดีลในอเมริกาใต้ เป็นตัวช่วยให้นักปีนเขาได้พิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ และเป็นอุปกรณ์ฉุกเฉินสำหรับภัยธรรมชาติ ตลอดจนเป็นแบรนด์รุ่นปู่ที่ยังคงอุ้มชูวัฒนธรรมแคมป์ปิ้งของรุ่นหลานที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างแข็งขัน

พบกับ Coleman ได้ที่ชั้น M สยามดิสคัฟเวอรี่ 

YOU MAY ALSO LIKE