5 สิ่งเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ เกิดขึ้นแล้วที่ OneSiam
เดสติเนชั่นที่ไม่ได้มีดีแค่ช้อป ชิม ชิล แต่เก็บทุกดีเทลเพื่อสร้างวันพิเศษให้ทุกครั้งที่มา
จากประสบการณ์ตรงที่คุ้นเคยกับ OneSiam จากสยามพารากอนที่มีความเวิลด์คลาส สู่สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ไฮบริดรีเทลที่ฉีกรูปแบบการช้อปปิ้งเดิมๆ ทำให้เราค้นพบความ ‘ธรรมดา’ ในมุมเล็กๆ แต่กลับสร้างความรู้สึก ‘พิเศษ’ ขึ้นในใจ
1. ท็อปโลเกชั่น สนั่นโลกโซเชียล
นอกจากเป็นพื้นที่ในการจัดอีเวนต์สำคัญทั้งระดับโลกและระดับประเทศ เป็นจุดนัดพบที่ง่ายที่สุด เรากำลังพูดถึงลานพาร์ค พารากอน ที่ดังไกลและอยู่ในใจคนทั่วโลกแล้ว หลังติดอันดับสถานที่ยอดนิยมจากเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมหลายปีในปี 2557 ติดอันดับ 4 โลเกชั่นที่คนถ่ายรูปแชร์ผ่าน Instagram มากที่สุดในโลก ส่วนปี 2558 คว้าอันดับ 1 สถานที่ที่คนมาเช็กอินมากที่สุดจาก Facebook และยังติดอันดับ 6 สถานที่ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโลกทาง Facebook ด้วย (โดยเป็นหนึ่งเดียวในเอเชียที่ติดอันดับท็อปเท็น)
2. มุมฟรีสุดดี๊ดี
อันนี้คือความดีงามที่โดนใจหนุ่มสาวยุคมิลเลนเนียล (แม้แต่เจนฯ ก่อนหน้าก็ตามเถอะ) เพราะที่สยามดิสคัฟเวอรี่ มี Working Space ชั้น 4 ที่มีทั้งแอร์เย็นๆ กับเบาะนุ่มๆ ไว้ให้นั่งทำการบ้าน คิดงาน หรือรอเพื่อน ส่วนชั้น 5 มีอีกหนึ่งจุดที่กว้างขวาง เงียบสงบ และมีปลั๊กไฟให้ใช้งานได้...FYI หากโชคดีอาจมีโอกาสได้เสพงานศิลป์ดีๆ ที่สลับกันมาจัดแสดงด้วย ต่อกันที่สยามเซ็นเตอร์ ชั้น M พื้นที่นั่งทำงานกับวิวอาร์ตๆ จากศิลปินระดับโลก ตอนนี้เป็นอินสตอลเลชั่นอาร์ตของ Tobias Rehberger ที่เล่นกับสีสันและคำฮิตในยุคมิลเลนเนียล น่าจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ไม่น้อย โดยเฉพาะศิลปินรุ่นใหม่ และเดินเลยมาหลังร้าน ALAND ร้านแฟชั่นมัลติแบรนด์จากประเทศเกาหลี ก็จะมีสเปซให้เรานั่งทำงานได้เช่นกัน
ว้าว! มีจริงๆ หรือนี่...ห้องแต่งตัวที่มีกระจกบานใหญ่ โต๊ะและเก้าอี้ พร้อมห้องแต่งตัวสุดส่วนตัวที่ติดไฟแบบสตูดิโอ - - สำหรับใครที่กำลังจะไปอีเว้นต์ ปาร์ตี้ หรือมีนัดเดทสุดโรแมนติก แล้วยังไม่มีไอเดียเรื่องชุด แนะให้มาช้อปที่วันสยาม ครบทั้งแฟชั่น บิวตี้ และแอ็กเซสซอรี่ แถมมีช้อยส์ของแบรนด์ระดับโลกและไทยดีไซเนอร์ให้เลือกแบบเหลือเฟือ เสร็จแล้วเดินลงไปที่ห้องน้ำชั้น B สยามเซ็นเตอร์ (จุดสังเกตคือบันไดสุดล้ำเปลี่ยนสีได้) ฝั่งผู้หญิง เข้าไปนั่งแต่งตัว แต่งหน้า และเซลฟี่เช็กความเรียบร้อยได้เลย - - บอกไว้ก่อนเลยว่า คุณควรจะเซลฟ์ในระดับนึง เพราะจะเจอคนมากหน้าหลายตาเดินเข้าออก - - แต่เชื่อเถอะว่านั่งได้สบายอยู่ และทั้งหมดนี้ ฟรี ฟรี ฟรี!
3. ฝากได้ครบ จบปัญหาของกวนใจ
ต่อเนื่องมาจากข้อที่แล้ว เมื่อคอมพลีตลุคเสร็จ ก็แค่เก็บสัมภาระทั้งหมดของคุณไว้ที่ตู้ฝากของอัตโนมัติ กับบริการ Lock Box plus+ ที่สยามพารากอน ใช้งานง่าย มีระบบตรวจสอบความปลอดภัย โดยตู้ล็อคเกอร์ตั้งอยู่ภายนอกอาคาร ชั้น G ฝั่ง South (ประตูทางออกตรงธนาคารกรุงเทพ)
4. อร่อยได้...ไม่แคร์เวลา
รีบเร่ง + แน่นเอี้ยด = เวลาของคนกรุง...เวลากินไม่ได้กิน เวลาอยากจะกิน ร้านก็ยังไม่เปิด หรือปิดแล้ว OneSiam เข้าใจเรื่องนี้ดี เลยขยายเวลาแห่งความอร่อยได้เช้าขึ้นและดึกขึ้น ตั้งแต่ 9.30 น. จนถึง 22.30 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านอาหาร) สำหรับสยามพารากอน ที่โซน Gourmet Garden ชั้น G ลิสต์ร้านอาหารที่คุณสามารถมากินได้แต่เช้าเลย มี Clinton St. Baking Company & Restaurant, Coffee Beans by Dao, IHOP, BakeSmith, Bake A Wish, Tokyo Milk Cheese, ชาตรามือ, McDonald's, MC Café รวมถึงโซน Gourmet Market, Food Court, Food Hall, Market Hall และTake Home ส่วนสยามเซ็นเตอร์ มีร้าน Au bon Pain ชั้น G, The Coffee Bean & Tea Leaf ชั้น M และ Starbucks ชั้น 1 ให้คุณมาสตาร์ตวันด้วยกาแฟแก้วโปรด หรืออาหารเช้าได้ตั้งแต่ 7 โมง (ปิด 4 ทุ่ม)
5. ทุกที่มีแรงบันดาลใจ
ไม่เว้นในห้องน้ำ - - ไม่ได้เสียมารยาทหรอกนะ - - เราพูดเรื่องจริงที่เกิดขึ้นที่ห้องน้ำชั้น 2 สยามเซ็นเตอร์ ทันทีที่คุณเข้าไปอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมสุดมิดชิดเพื่อทำธุระหนัก/เบา พลันสายตาก็เงยไปหยุดอยู่ที่ Wording สุด Inspiring จริงๆ ลองเข้าแต่ละห้องก็จะเจอข้อความตลกบ้าง จริงจังบ้าง แต่ก็กระตุกต่อมความคิดอยู่ไม่น้อย
แล้วคุณล่ะ...เจอสิ่งเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของคุณที่ OneSiam บ้างไหม - - บอกให้เรารู้บ้างนะ