BACK TO EXPLORE

8 Fun Facts รู้แล้วกินเจได้ฟินและอินสุด

8 Fun Facts รู้แล้วกินเจได้ฟินและอินสุด
รวมสตอรี่กินเจที่รู้แล้วจะเข้าถึง เข้าใจ และตื่นตาตื่นใจไปกับเทศกาลอาหารประจำปีที่ฮิตระดับโลก - - เทศกาลกินเจ

ใกล้เข้ามาแล้วกับเทศกาลกินเจปีนี้ ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน ถึง 7 ตุลาคม (บางคนกินเจล่วงหน้า 1 วันเพื่อล้างท้อง ให้ร่างกายได้เตรียมปรับสภาพ) เรากินเจเพราะเหตุผลแตกต่างกัน - - เพื่อสุขภาพ สร้างบุญ ละเว้นกรรมจากการงดเว้นเนื้อสัตว์ ดังสโลแกน ‘หนึ่งมื้อกินเจ หมื่นชีวิตรอดตาย’ และอยากบอกว่า กินเจยังช่วยกู้โลกได้!!

OneSiam ขอพาคุณไปค้นพบอีกด้านของเทศกาลกินเจ กับสีสัน รสชาติ เมนูอาหาร และภารกิจช่วยชาติ กับ Fun-tastic Facts สุดยอดเรื่องราวของความเป็นชาวเจ ที่จะทำให้โมเม้นต์กินเจของคุณปีนี้ครบรสมากกว่าเคย...


1. แลนด์มาร์กห้ามพลาดของคนกินเจทุกปี คือเยาวราช เดสติเนชั่นที่รวมความยิ่งใหญ่ของเทศกาลกินเจ และเป็นจุดท่องเที่ยวระดับโลก จัดขึ้นที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (วงเวียนโอเดียน) และถนนเยาวราชไปจนถึงแยกเฉลิมบุรี ไฮไลต์ที่ต้องดูคือ พิธีอัญเชิญกระถางธูปผงจากศาลเจ้า 22 แห่งในเยาวราช เพื่อนำมารวมกันไว้ที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ มีพิธีสวดมนต์และขอพรจากเทพเจ้า มีขบวนแห่รถบุปผาชาติ องค์สมมุติพระโพธิสัตว์กวนอิม พร้อมด้วยขบวนมังกรและสิงโตเทิดพระเกียรติ นี่ยังไม่นับร้านรวงที่ขายอาหารเจอีกกว่า 100 ร้าน แถมเป็นรสชาติแบบต้นตำรับด้วย - - เข้าถึงฟีลของเทศกาลแบบครบทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส





2. ถ้าอยากเข้าถึงจิตวิญญาณและวิถีชีวิตของการกินเจ เราก็ควรไปเยือนโรงเจกันสักหน่อย (บางที่มีอาหารให้กินฟรีด้วย) โรงเจที่เราอยากแนะนำมี โรงเจวัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) ที่เปิดโรงเจเฉพาะเทศกาลกินเจเท่านั้น ยังสามารถนั่งฟังธรรมและสวดมนต์ด้วย ต่อไปคือ โรงเจวัดทิพยวารีวิหาร แถวบ้านหม้อ มีจุดเด่นคือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เราสามารถนำน้ำมาประพรมเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ อีกแห่งคือ โรงเจบ้วนชุนตั๊ว เชิงสะพานกรุงธน (ฝั่งธนฯ) หรือโรงเจสะพานกรุงเทพฯ ที่อยากให้มาเพราะที่นี่คือหนึ่งในโรงเจไม่กี่แห่งในกรุงเทพฯ ที่มีอายุกว่า 100 ปี แล้ว ที่สำคัญ อาหารเจที่นี่ก็ถือว่าครบเครื่อง จนกลายเป็นแหล่งฝากท้องสำคัญอีกแห่งในเทศกาลกินเจทุกปี




3. โรงเจนี่ละ แหล่งกำเนิดวิถีของอาหารเจตามหลักการที่ถูกต้อง ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ เพราะเป็นอาหารที่ทำเพื่อให้พระภิกษุจีนฉัน และทำเพื่อเลี้ยงญาติโยมที่มาไหว้พระทำบุญ เพราะพระจีนจะไม่เดินบิณฑบาตเหมือนพระไทย


4. ธงสีเหลือง คือสัญลักษณ์ คือภาษาของชาวกินเจ เห็นธงเจโบกสะบัดไปทั่วในเทศกาล ธงสีเหลืองมีตัวหนังสือสีแดง ไม่เพียงดูเห็นเด่นชัด แต่ยังมีความหมายตามความเชื่อของจีนคือ สีเหลืองเป็นสีที่ใช้สำหรับจักรพรรดิ เราจึงมักเห็นสีเหลืองในการตกแต่งพระราชวัง วัด รวมทั้งเสื้อคลุมและเครื่องทรงของจักรพรรดิ สีเหลืองยังเป็นสีสำหรับนักบวช หรือผู้ทรงศีล สีแดงแสดงถึงความโชคดี และความสุข ส่วนตัวหนังสือภาษาจีนเขียนว่า ไจ หรือ เจ หมายถึง ไม่มีของคาว - - ลึกซึ้งมาก



5. (เจ) จะร้ายหรือรัก??  มีผลสำรวจจากเครือข่ายลดบริโภคเค็ม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า อาหารเจเป็นอาหารที่เสี่ยงต่อการได้รับโซเดียมสูงเกินปริมาณที่กำหนดคือ ไม่เกิน 600 มิลลิกรัมต่อมื้อ เมนูที่เขาเคยไปสำรวจแล้วพบว่าเค็มติดอันดับหนึ่งคือ พะโล้ มีปริมาณโซเดียมเฉลี่ย 1,092.44 มิลลิกรัม/200 กรัม อันดับ 2 ต้มจับฉ่าย (1,055.11 มิลลิกรัม/200 กรัม) และอันดับ 3 ขนมจีนน้ำยากะทิ (1,037.33 มิลลิกรัม/200 กรัม) ส่วนผักดอง เกี้ยมฉ่าย กานาฉ่าย จับฉ่าย ก็เป็นอาหารที่ใช้เกลือมาก ส่วนอาหารแปรรูป เช่น โปรตีนเกษตร ก็จะมีการเติมรสเค็ม เพื่อทำให้รสชาติใกล้เคียงของจริง ดังนั้นต้องเลือกอาหารอย่างระมัดระวัง เลือกจากร้านที่ไว้ใจได้และทำอาหารที่ไม่เค็มมากเกินไป


6. เชื่อในสิ่งที่กิน กินในสิ่งที่เชื่อ อาหารเจมีความเชื่อที่เป็นมงคลเหมือนกัน เช่น หมี่ซั่ว คือความยืนยาว ความเหนียวแน่น เป็นกลุ่มก้อน ความผูกพันของพี่น้อง ความยืนยาวของอายุ เห็ดหอม มีชื่อที่ออกเสียงตรงกับภาษาจีนว่า ตงกู แปลว่า ความสมหวัง และบางตำราก็ยังแปลว่า ความอุดมสมบูรณ์ ส่วนดอกไม้จีน แปลว่า จิตใจแจ่มใส พุทราจีน แปลว่าร่ำรวยเงินทอง เกาลัด มีความหมายว่า เงิน สังเกตว่าที่ซองอั่งเปาจะเป็นรูปเกาลัด หรือเด็กถือเกาลัด เพราะมีความหมายเช่นนี้นี่เอง







7. กินเจช่วยชาติ  เฉพาะปี 2561 มีรายงานจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยว่า ตัวเลขเม็ดเงินที่ใช้จ่ายในเทศกาลกินเจมีจำนวนมากถึง 4,650 ล้านบาท และมีการใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 315 บาทต่อคนต่อวัน เลยไม่น่าแปลกใจที่เทศกาลกินเจจะทำให้ระบบเศรษฐกิจคึกคักและกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยเป็นอย่างดี - - ปีนี้ ลุกขึ้นมากินเจช่วยเศรษฐกิจชาติกัน


8. กินเจกู้โลก เป็นฮีโร่แบบง่ายๆ แค่กินเจ ที่มีส่วนช่วยลดโลกร้อนได้ เพราะการทำปศุสัตว์เพื่ออาหารเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโลกร้อน นั่นมาจากก๊าซมีเทนที่สัตว์อย่างวัวปล่อยออกมาในกระบวนการย่อยอาหาร ซึ่งก๊าซมีเทนกักเก็บความร้อนไว้ได้นานถึง 10 ปี และทำให้เกิดภาวะโลกร้อนได้มากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 20 เท่า การกินเนื้อสัตว์ยังทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อทำทุ่งหญ้าไว้เลี้ยงสัตว์ และต้องใช้น้ำปริมาณมหาศาลเพื่อทำปศุสัตว์ จากสถิติ ปกติคนเราใช้น้ำเพื่อบริโภคเฉลี่ยวันละ 3 ลิตร ส่วนการปลูกมันฝรั่ง 1 กิโลกรัมใช้น้ำราว 250 ลิตร แต่เนื้อวัว 1 กิโลกรัมใช้น้ำในการผลิตถึง 15,000 ลิตร เป็นการใช้ทรัพยากรที่มากโขอยู่ - - อาหารเจ 1 จานที่คุณกินสามารถช่วยต่อลมหายใจให้สัตว์และโลกของเราได้


OneSiam ขอให้เทศกาลกินเจปีนี้ของทุกคนอิ่มไปด้วยความสุขทั้งกายและใจ พร้อมเพลิดเพลินไปกับสีสันและรสชาติของอาหารเจที่บอกเลยว่าเหมือนธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา...จาก street food ถึง fine dining คุณจะค้นพบความอร่อยสุดมหัศจรรย์ของอาหารเจได้ในสไตล์ของคุณเอง - - และ OneSiam ก็เป็นหนึ่งในเดสติเนชั่นที่รวมความสุดของเมนูเจ ที่สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่

YOU MAY ALSO LIKE