BACK TO EXPLORE

MEET THE MAKER - UNCLE REE

MEET THE MAKER

Charee Uncleree Boonyavinij One of the MAKERS

 

 

เราเป็นนักออกแบบมาก่อน มันก็จะสร้างสรรค์ สนุก มีโดดเด่น มีสีสัน มีกระบวนการคิดโน่นนี่นั่น ทำให้เป็นที่น่าสนใจอยู่เสมอ และเราก็เริ่มต้นมาจากดิน ถามว่าตัวเองเป็นอะไร คงนิยามว่าเป็น earth creator ก็คือเป็นนักก่อเกิดสิ่งใหม่จากดินที่ดี

 

จุดริเริ่มของ Uncle Ree’s Farm:

“เราเป็นคนเมือง เราไม่มีต่างจังหวัดให้กลับ เราก็คิดว่าเราจะอยู่กับกรุงเทพฯ ให้มีความสุข ทำยังไงได้บ้าง ฝึกตัวเองให้ลองเพาะปลูกอะไรเป็น เราใช้เงินกับทุกอย่างเลย เราก็เลยอยากลองริเริ่มสร้างอาหารด้วยตัวเองขึ้นมา จากเริ่มอยู่บ้านยังไงให้มันอยู่รอด พึ่งพาตัวเอง แต่ว่าแพชชั่นที่เข้มแข็งที่สุดของเราคือเราเป็นโรคขี้เสียดาย เห็นโน่นก็เสียดาย เห็นนี่ก็เสียดาย ไปทำร้านอาหารก็ไม่รอด เขาสั่งให้ทิ้งก็ไม่ทิ้ง ทำไม่ได้ อยู่ไม่ได้ แต่พอมาทำเกษตร เราไปเอาของเหลือของคนอื่นเขามาเป็นต้นทุนของเรา ความเสียดายมันก็เลยทำให้มันเกิด value กลายเป็นการเลือกใช้พวก waste ให้มันเกิดขึ้น ก็คิดว่านี่เป็นจุดเปลี่ยนของตัวเอง เห็นอะไรก็เสียดายหมด เห็นควันรถก็เสียดาย เห็นน้ำล้นก็เสียดาย เห็นโน่นเห็นนี่เห็นนั่น อยากจะใช้ให้มันคุ้มค่าที่สุด ก็เลยกลายเป็นเห็น positioning ของตัวเองครับ”

 

นิยาม คอนเซปต์ หรือสิ่งที่ Uncle Ree’s Farm อยากจะสื่อสารออกไป:

“เราเป็นนักออกแบบมาก่อน มันก็จะสร้างสรรค์ สนุก โดดเด่น มีสีสัน มีกระบวนการคิดโน่นนี่นั่น ทำให้เป็นที่น่าสนใจอยู่เสมอ และเราก็เริ่มต้นโตมาจากดิน ทำเรื่องไส้เดือน ก่อเกิด connect จุดต่างๆ กลายเป็นของอื่นๆ ออกมา ถามว่าตัวเองเป็นอะไร คงนิยามว่าเป็น earth creator ก็คือเป็นนักก่อเกิดสิ่งใหม่จากดินที่ดี เพราะเริ่มต้นจากดิน มองจากเท้าแล้วก็แหงนขึ้นฟ้าว่าเราจะไปเป็นอะไรได้บ้าง นี่คืองานของผม ของที่ไม่มีค่าเราทำให้มันมีค่าได้หมดครับ”

 

สินค้า Uncles Ree’s Farm ที่มีอยู่ใน Ecotopia ตอนนี้มีผลดีต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง:

“ก็จะเป็นตัว Bio Trash ถังจัดการขยะอาหารรูปแบบต่างๆ ทำให้คนเข้าถึงการจัดการขยะได้ง่ายขึ้น ในงบประมาณที่รับได้ พื้นที่จำกัด เขาเรียกว่าเกษตรเงื่อนไขจำกัด เริ่มทำอะไรง่ายๆ ด้วยตนเอง ด้วยความเข้าใจเรื่องดินเรื่องจุลินทรีย์ ทำให้มันใช้งานง่ายขึ้น สามารถจัดการขยะอาหารปริมาณ 20 กิโลกรัมต่อเดือน ถ้าร้อยบ้านก็คูณเลขเข้าไป แปลว่ามันเริ่มต้นจากใครก็ได้ ถ้าเราเริ่มต้นจากการไม่จัดการขยะ คนอื่นเขาเอาไปทำอะไรกันต่อก็ค่อนข้างยาก คิดว่าในส่วนนี้มันสามารถที่จะเป็นจุดแรกเริ่มที่ทำให้คนเข้าสู่การรักสิ่งแวดล้อมได้ครับ เป็นการ transform เอาขยะมาแปรรูปให้กลายเป็นปุ๋ย จากนั้นเราก็เอาปุ๋ยที่เกิดขึ้นไปใส่ต้นไม้ ไปทำอะไรอื่นๆ ต่อครับ”

 

คิดอย่างไรกับการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใกล้ตัวของคนในยุคปัจจุบัน และดูเหมือนจะกลายมาเป็นกระแสหลักที่ทำให้คนเริ่มสนใจเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น:

“ผมมองว่าเรื่องของการรักสิ่งแวดล้อมก็เป็นเรื่องของการรักตัวเอง คนที่ไม่รักสิ่งแวดล้อมแสดงว่ายังรักตัวเองไม่เป็น และไม่ค่อยแคร์คนอื่นด้วย มันเหมือนเราจะเริ่มคบใคร ถ้าเขายังรักตัวเองไม่เป็น ไม่สนใจคนอื่น มันก็ฟ้องแล้วว่าเขาเป็นคนยังไง โลกก็มีใบเดียวไม่มีอะไร คิดว่าถ้าคนตระหนักเรื่องนี้ได้ก็เป็นคนที่น่าหลงไหล เราไม่ได้คิดว่าเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นกระแสเป็นอะไรทั้งนั้น เราคิดว่ามันเป็น standard เป็นพื้นฐานที่จะต้องช่วยกันรักษา แต่ที่ผ่านมามันไม่ได้ทำกันเป็นปรกติจนเคย ก็ไม่ต้องคิดถึงใครก็ได้ คิดถึงตัวเองนั่นแหละ ตัวเองทำตัวเองก็ได้สิ่งที่ดีไปครับ”

 

ทิศทางในวันข้างหน้าหรือเป้าหมายในอนาคตของ Uncle Ree’s Farm เป็นอย่างไร:

“จริงๆ แล้วอยากจะทำให้มันไม่เหมือนงาน เหมือนอยากจะใช้ชีวิตไปกับแบรนด์ แบรนด์ก็เหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องดูแล เราก็อยากจะเติบโตเป็นรูปแบบของการ mobile การที่จะ moveable ไปเรื่อยๆ หาภูมิปัญญาที่มันดีของประเทศไทยและก็ transform มันเป็น economy หรือเศรษฐกิจ พูดง่ายๆ ว่ายังมีเครื่องมืออีกมากมายที่สามารถจัดการขยะได้ สามารถสร้างสรรค์ได้แต่ว่าต้องรอการค้นพบ ค้นหา ก็คิดว่าการเดินทางน่าจะต้องเป็นจุดเปลี่ยนหลังจากเฝ้าฟาร์มมาสิบปีแล้ว สิบปีต่อจากนี้มีลูกน้อยก็คิดว่าจะออกไปผจญภัยใช้ชีวิตบ้าง แต่สุดท้ายการที่ออกไปเราก็ยังมี hub อยู่ตรงนี้เหมือนเข้าพรรษาอยู่เหมือนเดิม ก็คิดว่าปีหน้าเป็นต้นไปก็จะเริ่มออกเดินทางไปดูว่า มีภูมิปัญญาอะไรในประเทศที่สามารถขยับมาเป็นเศรษฐกิจได้บ้าง ว่าจะลงให้มันเป็น PhD เชี่ยวชาญเรื่องนี้ไปเลยครับ”

 

ถ้ามีพรวิเศษ 1 ข้อ คุณจะขออะไรให้กับโลกของเรา:

“Simple มากเลยก็คือขอให้คนมองตัวเองออก อาจจะดูเรียบๆ ง่ายๆ คือถ้าเรามีคนคอยเตือนเราเองและเป็นตัวเราที่เตือนตัวเองได้มันก็น่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น บางทีเราก็มองไม่เห็น ไม่มีใครกล้าเตือนอะไร ฉนั้นถ้าเกิดว่ามีกระจกสักใบแล้วมันสะท้อนสิ่งที่เราเป็นอยู่และเราได้เห็นตัวเองโดยที่ไม่ต้องมีใครมาดุ มาว่า หรือว่ามาทำให้เรารู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่คิดว่าอยากให้คนเรามองตัวเองออกครับ”

 

ฝากถึงคนรุ่นใหม่หรือคนที่กำลังสนใจของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม:

“จริงๆ แล้วคนรุ่นใหม่ก็คือเราเมื่อก่อน แต่คนรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้จะขยับขยายทำอะไรหลายอย่าง มีโอกาสเลือกทำอะไรได้หลายอย่าง เลือกดูแลสิ่งแวดล้อมเพิ่มไปอีกสักอย่างจะเป็นอะไรไป ดูแลสิ่งแวดล้อมเพิ่มกันอีกสักนิดนึง ก็น่าจะสนุกดี อย่าให้เรื่องของสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของคนกลุ่มน้อยที่มันเชย อยากให้ทำให้มันสนุกและก็เซ็กซี่ขึ้น ในแบบของคนรุ่นใหม่”


 

#SiamDiscovery #TheExploratorium #ComePlayWithUs
#SummerExploratorium #EarthDiscovery
#nopollutionisthesolution

YOU MAY ALSO LIKE