BACK TO EXPLORE

4 วิธีเที่ยวท้าลมหนาวปลายปีอย่างมีสติ… และสไตล์

4 วิธีเที่ยวท้าลมหนาวปลายปีอย่างมีสติ… และสไตล์
อุปกรณ์ก่อนเที่ยวต้องมีอะไรบ้าง สายลุยเตรียมตัวให้พร้อม

ใครว่าฟังก์ชั่นและแฟชั่นไปด้วยกันไม่ได้ ลืมกางเกงขาสามส่วนที่มีกระเป๋าเยอะๆ (แต่ใส่ไม่เคยครบทุกช่อง) แจ็กเก็ตบวมเหมือนมาสคอตยางมิชลิน เป้ใบโต และรองเท้าผ้าใบอับๆ ไปได้เลย นั่นคือลุคที่มองยังไงก็เหมือนนักท่องเที่ยวที่กำลังหลงทางกับกรุ๊ปทัวร์ นี่คือ4 วิธีที่จะทำให้คุณท่องเที่ยวท้าลมหนาวได้อย่างมีสติ สไตล์ และมีฟังก์ชั่นคล่องตัวตลอดทริป




1. หาคู่ที่คุณคู่ควร
เพราะเจ็บเท้า=ฝันร้าย ดังนั้น เลือกรองเท้าให้เหมาะกับทริปครับ เท้าเปล่าคืออุดมคติหากอยากย่ำริมชายหาด แต่ถ้าจำเป็นต้องไปที่อื่นต่อต่อ จะลากแตะหนีบก็กลัวว่าจะชิวไป โลเฟอร์ผ้าใบพื้นยาง (หรือโฟม) น้ำหนักเบาของ TOM (2,490 บาท) คือคู่แท้หากคุณอยากย่ำเท้าบนผืนทราย (ได้ตั้งแต่หัวหินยันคาปรี) อย่างสไตลิชในฤดูร้อน แต่ถ้าอยากขึ้นภูเขาไปสัมผัสลมหนาว ไม่จำเป็นต้องใส่รองเท้าบูทหนังหนักๆ เสมอไป (ยกเว้นว่าคุณกำลังปีนเอเวอร์เรส) รองเท้า Keen รุ่น Clear Water (3,850 บาท) คือเพื่อนคู่เท้าที่เหมาะมากกับภารกิจนี้ ด้วยตัวรองเท้าเป็นซี่พร้อมรับลมหนาว กระชับฝ่าเท้า วัสดุทนทาน ไม่ขาดง่าย มาพร้อมพื้นรองเท้าที่ยึดเกาะทุกพื้นผิวและกันลื่น พร้อมปีนได้ทุกหุบเขาในเมืองไทย แต่ถ้าคุณไม่ใช่สายบู๊ แค่อยากเดินทอดน่องในเมืองหรือเอาเท้าจุ่มน้ำในน้ำตก เราแนะนำ Keen Uneek (3,850 บาท) ที่ถักจากเชือกกระโดดร่ม ยิ่งใส่ ยิ่งกระชับรับกับรูปทรงเท้า ใส่ง่ายๆ แบบสลิปออน เพราะเรารู้ว่าคุณเอียนเต็มทนกับการผูกเชือกรองเท้าหนังก่อนเข้าออฟฟิศในเช้าวันจันทร์


2. ทำเงินระหว่างทริป
ยุคนี้ ประสบการณ์การท่องเที่ยวและรูปถ่ายสวยๆ นั้นสร้างรายได้ให้คุณได้อย่างคาดไม่ถึง  ดังนั้น อย่ามองข้ามกล้องถ่ายรูปดีๆ และเซลฟี่สติ๊กสักอัน เราแนะนำ Hyone (690 บาท) ยืดได้สูงสุด 51 เซนติเมตร (เกือบ 2 ไม้บรรทัด) อย่าลืมว่าไม้เซลฟี่ไม่จำเป็นต้องใช้ถ่ายเซลฟี่เสมอไป เพราะมันสามารถเก็บภาพจากมุมสูงได นั่นทำให้ภาพประกอบการท่องเที่ยวในบล็อกหรือโพสของคุณแตกต่างจากคนอื่น ไม่แน่ ภาพสวยๆ และประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หาไม่ได้จากที่ไหนอาจสร้างรายได้ให้คุณได้มากกว่ากินกำไรส่วนต่างจากการรับพรีออเดอร์สินค้า (ที่ทั้งหนักกระเป๋าและเสี่ยงโดนภาษี) เสียอีก





3. เก็บของมีค่าไว้ในที่ปลอดภัย
ขอแนะนำ Osprey dry sack ถุงผ้ากันน้ำที่เพอร์เฟ็คมากสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทำจากผ้ากันน้ำ ทอแน่นหนา ไม่ขาด น้ำหนักเบา เก็บเข้าสูทเคสได้โดยไม่กินพื้นที่ ทันทีที่คุณแพ็คของทุกอย่างใส่กระเป๋าเดินทาง อย่ามั่นใจว่าของในกระเป๋าปลอดภัยจนกว่าจะล็อกมันไว้ด้วยแม่กุญแจเข้ารหัสจาก Travel Sentry (500 บาท) แต่ถ้าคุณเป็นสายแบ็กแพ็ค ขอแนะนำกระเป๋าเดินทางจาก Fjällräven รุ่น Duffel No.6 (7,950 บาท) จุของได้ถึง 50 ลิตรที่สามารถถือได้ทั้งแบบกระเป๋าดัฟเฟิล และมีสายสะพายไว้ให้สะพายได้แบบกระเป๋าแบ็กแพ็ค สำหรับใครที่มีแพลนไปรับลมหนาวในต่างประเทศ แนะนำให้เก็บพาสสปอร์ต ซิมการ์ด เมมโมรี่สติ๊ก รวมถึงการ์ดเล็กๆ และเอกสารสำคัญไว้ใน passport holder ดีๆ สักอัน ขอแนะนำ Theorem 24/7 Life Accesstories (595 บาท) เย็บจากหนังทั้งชิ้น แข็งแรง คว้าง่ายได้ในครั้งเดียวจบ ทันใจเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จริงอยู่ว่านี่คือวันผักผ่อนที่คุณไม่จำเป็นต้องรีบร้อน แต่อย่าลืมว่ามันไม่ใช่วันหยุดสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ที่อาจไม่ใจเย็นเท่าคุณ)





4. อย่าขาดน้ำระหว่างปั่นในที่แปลก
สำหรับนักปั่นที่ตั้งใจจะไปหิ้วจักรยานไปผจญภัยช่วงปลายปีที่ญี่ปุ่น หรือเนเธอร์แลนด์ ขอแนะนำ Salomon กระเป๋ากระชับลำตัวที่มาพร้อมช่องใส่น้ำดื่ม 2 ช่อง (พร้อมหลอดดูดและฝาปิดในตัว) เสมือนคุณพกกระบอกน้ำถึง 2 กระบอก หากคุณมีกระเป๋าอยู่แล้ว และต้องการแค่กระบอกน้ำ Osprey คือตัวช่วยที่ไม่กินกินพื้นที่และน้ำหนักในกระเป๋าเหมือนกระบอกน้ำทั่วไป (แถมจุได้ถึง 1.5 ลิตร)   





5. ทำป่า ให้นอนสบายเหมือนบ้าน
ไหนๆ ได้โอกาสเข้าป่าทั้งที ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้นอนตากไอเย็นและน้ำค้างแข็งกลางแมกไม้ เต็นท์จาก Fjällräven คือไอเท็มที่นักเดินป่าห้ามพลาด เพราะมีพื้นที่กว้าง นอน 2 คนเหยียดขาได้สบาย ทอจากผ้ากันน้ำ ระบายอากาศได้ดี ถ้าผ้าห่มที่พกไปยังกันลมหนาวได้ไม่มากพอ ลองใช้ถุงนอนจาก Overland (595 บาท) เป็นตัวช่วย อย่าลืมพกหมอนรองคอจาก Travel Neck Pillow (120 บาท) ไปด้วย ใช้หนุนนอนได้ตั้งแต่บนรถตู้หรือกลางป่า กระชับกับกระดูกต้นคอพอดี ลืมอาการปวดเมื่อยต้นคอเพราะนอนตกหมอนไปได้เลย





6. แต่งตัวให้กลมกลืนกับคนท้องถิ่น
ภูมิปัญญาไทยเดิมที่บอกว่า เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามนั้นยังคงใช้ได้กับยุคไทยแลนด์ 4.0 เพราะการแต่งตัวแปลกแยกกับคนท้องถิ่นนั้นล่อเป้ามิจฉาชีพและเสี่ยงต่อการโดนโกงอย่างยิ่ง หากคุณไม่รู้ว่าคนท้องถิ่นของภูมิภาคที่ไปเที่ยวนั้นแต่งตัวยังไง เราแนะนำให้ใส่ ‘ยีนส์’ ครับ นี่คือชุดที่คลาสสิกตลอดกาลและเป็นสากล (ยกเว้นว่าคุณไปทักทายเอสกิโมที่ขั้วโลกเหนือ) แจ็กเก็ตทริปเปิ้ลพลีท 3 จีบหน้า ถอดแบบจากโมเดลเก่ายุค 1880 จาก Levi’s (14,990 บาท) คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด ทอจากผ้า Cone Denim ซึ่งเป็นผ้าต้นตำรับจากนอร์ธแคโรไลน่าในยุคแรกๆ ของลีวายส์ ให้อารมณ์แคชชวลกึ่งฟอร์มอล ใส่ลุยป่าเขตร้อนชื้นยันชมมิวเซียมที่ฟลอเรนซ์ได้อย่างไม่เคอะเขิน ปิดท้ายด้วยยีนส์ลีวายส์ 501 ทรงกระบอกตรงสุดคลาสิกอีก 1 ตัว รับรองว่า ตัวเดียวอยู่ทั้งทริป ประหยัดน้ำหนักในกระเป๋าและค่าซักรีดระหว่างทริปไปได้อีกนาน

YOU MAY ALSO LIKE