BACK TO EXPLORE

Barberford Noir ร้านตัดผมชาย ยืนหนึ่งในสยามดิสคัฟเวอรี่

แพชชั่น ศิลปะ และความพึงพอใจ คือส่วนผสมในการทำบาร์เบอร์ช็อปจากผู้ชายที่ชอบตัดผม

ใครจะนึกว่าท่ามกลางความเร่งรีบและความวุ่นวายใจกลางเมือง จะมีมุมสงบได้หลบพักและผ่อนคลายไปพร้อมๆ กับได้ทรงผมใหม่ที่ทำให้เรารู้สึกมั่นใจมากขึ้นได้ด้วย!

ก้าวแรกที่เดินเข้ามาใน “Barberford Noir” ที่ชั้น M สยามดิสคัฟเวอรี่ จะสัมผัสได้ถึงความสงบและเป็นส่วนตัว เพราะโทนการตกแต่งร้านที่ใช้สีดำเป็นหลัก เฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจที่ดูเท่ ให้กลิ่นอายความหรูในแบบย้อนยุค





จากความชอบสู่ธุรกิจที่ใช่

“คุณชารส์ล สิริ” เจ้าของร้านตัดผมสำหรับคุณผู้ชายหนึ่งเดียวในสยามดิสคัฟเวอรี่เล่าให้เราฟังว่า “จุดเริ่มต้นของร้าน Barberford คือความชอบในการตัดผมของตัวเอง ตระเวนไปตัดมาหลายร้านในหลายประเทศทั่วโลก แต่ยังไม่เจอร้านที่ถูกใจ เลยคิดว่าเราลองทำธุรกิจนี้เองดีไหม และเมื่อลองเปิดร้านตัดผมสาขาแรกขึ้นในย่านราชประสงค์เมื่อเกือบ 5 ปีที่แล้ว ปรากฎว่าเป็นที่ถูกใจของลูกค้าวีไอพีหลายท่าน จึงมีการบอกปากต่อปากมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องมองหาสถานที่เปิดสาขาสอง และมาลงตัวที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ตอนนี้ เรามีถึง 5 สาขาแล้ว และกำลังจะขยายสาขาเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าได้ทุกระดับ”




ลูกค้าของ Barberford Noir มีทั้งดารา นักร้อง เซเลบริตี้ ไปจนถึงเจ้าชายสองพระองค์ พระราชโอรสของสุลต่านแห่งประเทศในแถบเอเชีย ยังบินตรงมาเพื่อตัดผมที่นี่ แต่กลุ่มลูกค้าหลักของ Barberford Noir จะเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ หรือผู้บริหารระดับเริ่มต้นที่ต้องการคุณภาพและบริการที่ดี และที่นี่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะความพึงพอใจเป็นหัวใจสำคัญที่เราใช้กับทุกสาขา และทำให้ฐานลูกค้าของ Barberford เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ


ทุกขั้นตอนเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า

จุดเด่นของ Barberford Noir ไม่ใช่แค่การตัดผม แต่เป็นการบริการที่ไม่เร่งรีบ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย คล้ายมาทำสปาศีรษะในราคาเดียวกับการตัดผม เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการตัดผมโดยช่างมืออาชีพที่มีทักษะและได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จะค่อยๆ เก็บ ค่อยๆ เล็มผม เพื่อให้ได้ทรงที่เหมาะกับลูกค้า






คุณชารส์ลเสริมว่า “บางทรงผมไม่ใช่ทรงที่เหมาะกับลูกค้า แต่เป็นทรงที่พวกเขาชิน” บางคนตัดทรงเดิมๆ มานานมากและคิดว่านี่แหละคือทรงที่ดีแล้ว แต่หน้าที่ของช่างตัดผมคือให้คำแนะนำว่าลักษณะเส้นผม หน้าตา รวมทั้ง โครงสร้างของกะโหลกศีรษะของลูกค้าน่าจะเหมาะกับผมทรงไหน เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าเมื่อเดินออกจากร้านไป

ขั้นตอนต่อมาเป็นการสระผมด้วยผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกส์ “Handsum Mojo” พร้อมการนวดเพื่อกระตุ้นหนังศีรษะและช่วยให้รู้สึกรีแล็กซ์ แล้วสุดท้ายช่างจะเซ็ตทรงผม ที่จะช่วยเสริมสไตล์และเข้ากับบุคลิกของลูกค้าแต่ละคน รวมถึงการแนะนำเทคนิคการเซ็ตผมตามธีมงานต่างๆ ที่ลูกค้าจะไปด้วย





“Handsum Mojo เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของ Barberford โดยใช้น้ำนมข้าวจากข้าวไทยมาเป็นส่วนผสมหลัก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุน แต่เข้มข้นกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ ถึงสามเท่า เช่น คอนดิชันเนอร์จะผสมทรีทเม้นท์ลงไป เพื่อช่วยดูแลและบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะได้ในคราวเดียวกัน ซึ่งเราวางขายในร้านให้ลูกค้าประจำซื้อกลับไปใช้ที่บ้านด้วย” คุณชารส์ลกล่าว




คุณชารส์ลกล่าวทิ้งท้ายว่าเทรนด์ผมของผู้ชายในช่วงนี้ต่อไปจนถึงปี 2020 น่าจะเป็นแนวแคชวลมากขึ้น ความเนี๊ยบจะลดลง แต่ก็ไม่ได้ดูเซอร์จนเกินไป

และถ้าวันนี้ใครที่อยากเปลี่ยนลุคปรับทรงผมใหม่ พร้อมรับบริการที่ผ่อนคลายจาก Barberford Noir ร้านบาร์เบอร์หนึ่งเดียวในสยามดิสคัฟเวอรี่ ก็แวะมาได้เลย