BACK TO EXPLORE

ความเป็นชาแท้ คือต้องรักษาทุกสิ่งของชาไว้ และต้องให้ความเลิศของรสชาติอยู่ในใจคน

“สิ่งที่ต้องมี” ของอาร์ติสท์ที่ต้องการพลังสร้างสรรค์ และโดนใจหนุ่มสาววัยรุ่นยุคนี้

คือความรู้สึกที่เราได้รับเมื่อดื่มชาของ “ร้าน TE” ร้านชาเรียบง่ายแต่ล้ำลึกของ “คุณปลา นันธิดา รัตนกุล” คุณปลาเคยเป็นสาวทำงานมาร์เก็ตติ้งมาก่อน และเริ่มค่อยๆ หลงใหลในการดื่มชาขึ้นเรื่อยๆ จนวันหนึ่งเธอคิดว่าจะเอาความสุขเวลาดมกลิ่นและค่อยๆ จิบชา มาเป็นอาชีพเลยแล้วกัน เธอค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ค้นหาใบชาที่ดีที่สุด จนกระทั่งเกิดเป็นร้านชาบนถนนทองหล่อ มีชาที่เธอเบลนด์เอง และชาที่สั่งมาพิเศษ ร้าน TE จึงกลายเป็นหนึ่งในร้านชาที่สร้างความรื่นรมย์ให้กับทุกคนที่ได้เข้าไป 

วันนี้ TE  ได้มาตั้งอยู่ที่ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอรี่แล้ว คุณปลาบอกว่า “พอมาเปิดร้านที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีวัยรุ่น คนหนุ่มสาวมาดื่มชาของเธอกันเยอะเลย” 





ก็คงเป็นเพราะความนุ่มของร้าน TE กาน้ำชาที่ตั้งอุ่นร้อนตลอดเวลา ใบชาหอมๆ และพนักงานน่ารักๆ ทำให้เราเองยังต้องปลีกเวลาช่วงบ่ายไปนั่งจิบชาที่ร้าน TE บ่อยๆ แล้วก็มาเจอกับชาเบลนด์ชนิดหนึ่งที่ถอนตัวไม่ขึ้นของร้านนี้….





ข้าวเหนียวดำและชาเขียว

เบลนด์ชานี้ของร้าน TE ใครได้มาชิมจะต้องติดใจในความหอมง่ายๆ ของทั้งข้าวเหนียวดำและชาเขียว หอมแบบต้องดมกันไปเรื่อยๆ นุ่มนวลและอบอุ่นต่อใจ ชาเบลนด์นี้ และที่มาของเบลด์ชารสนี้ก็ไม่ธรรมดา คุณปลาเล่าว่า “ไปเจอคุณน้าคนหนึ่งเขาเป็นมะเร็ง เขาบอกว่าต้องทำธรรมชาติบำบัด แล้วงานวิจัยของแพทย์จากเมืองอุบลราชธานีท่านหนึ่งบอกว่าข้าวเหนียวดำจะช่วยเยียวยาได้ คุณลุงเลยดื่มชาข้าวเหนียวดำเป็นประจำ แล้วปรากฏว่ามะเร็งไม่ขยายตัวเลย ไปเจองานวิจัยเพิ่มด้วยว่าในข้าวเหนียวดำมีสารโอเมก้า 3, 6, 9 อยู่เยอะ เลยไปเบลนด์เพิ่มกับชาเขียว ที่มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ปริมาณสูง จะได้เพิ่งรสชาติให้ละมุนขึ้นด้วย” พอเบลนด์ออกมาเสร็จก็ได้ “ข้าวเหนียวดำคั่วผสมชาเขียว” ที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบมาก ถึงกับตั้งชื่อว่านี่คือเกนไมฉะเวอร์ชั่นไทยกันเลย



ชาที่ดี ใบชาตั้งต้นต้องดี

ในร้าน TE ยังมีชาหอมๆ ดีๆ อีกหลายเบลนด์ แต่ที่เป็นหัวใจของชาที่สุด คุณปลาบอกว่า “ใบชาตั้งต้นต้องดี ซึ่งก็คือชาดำ ชาเขียว และชาอู่หลง”พอได้ใบชาตั้งต้นดีแล้ว จะเอามาเบลนด์กับอะไร รสชาก็จะเลิศตามไปด้วย และที่มาของการค้นหาใบชาที่ใช่ของคุณปลา มาจากพาร์ทเนอร์ของคุณปลา เขาเป็นชาวต่างชาติที่ธุรกิจของที่บ้านคือทำเรื่องชาพอดี เขาเลยสามารถหาแหล่งใบชาที่ดีมาให้คุณปลาได้ “ชาระดับท้อปๆ ของโลกต้องปลูกในที่ภูเขาสูง อากาศเย็น อย่างจีน ญี่ปุ่น ที่นั่นเขาจะดื่มชากันสดมากๆ เพราะผลิตผลเขาดีมาก ชาที่ดีเฉือนกันตรงนี้ว่าแหล่งที่มาของชา การปลูก ดิน แหล่งชาไหนจะสร้างชามาได้เลิศกว่ากัน” ชาตั้งต้นของร้าน TE คุณปลาเลือก “ฟูเจียน” จากจีน ดินแดนที่อยู่ใกล้ๆ กับไต้หวัน



ชารสดัง Midsummer Dream

พอได้รสชาที่คุณปลาคิดว่าสุนทรีย์ในรสชาติ และดีงามในคุณภาพแล้ว คุณปลาก็ใช้ความชอบล้วนๆ ของเธอสร้างชาเบลนด์ตัวต่อไปและต่อไป ชาอีกตัวที่หอมโดนใจทุกคนคือ “Midsummer Dream” เป็นชาเบลนด์จากกุหลาบฝรั่งเศส หญ้าหวาน ใบหม่อน กระเจี๊ยบ ชาตัวนี้คุณปลาบอกว่า“เราอยากได้ชาที่เป็นผลไม้ๆ ตัวนี้ไม่มีคาเฟอีน คนท้องดื่มได้ อยากดื่มตอนกลางคืนก็ได้” เหมาะกับคนทำงานมาเครียดๆ อยากชิลล์ อยากโทนดาวน์ตัวเอง ชานี้จะทำให้เกิดสิ่งนั้นได้ทันที และยังช่วยลดความดัน ดีท็อกซ์สารพิษในร่างกายด้วย



เอิร์ลเกรย์ในแบบไทยๆ

อีกกลิ่นที่น่าสนใจมากๆ คือ “Midnight Earl Grey” ปกติชาเอิร์ลเกรย์คือชาดำที่เบลนด์ด้วยน้ำหอม หรือน้ำมันสกัดจากเบอร์การ์มอต แต่ของร้าน TE คุณปลาแหกทุกกฏของเอิร์ลเกรย์ไปเลย เธอเลือกเอาสมุนไพรไทยมาเป็นตัวเบลนด์ คือ “ขมิ้นชัน” นี่เอง โอ้โห! ออกมาเป็นชาที่รสดีล้ำเลิศ หอมแบบที่ไม่เคยดมมาก่อน และยังช่วยเรื่องสุขภาพ เพราะในขมิ้นชันมีสารช่วยแก้โรคกรดไหลย้อน ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ในชาดำก็มีคาเฟอีนไม่มาก จะได้รสที่ละมุนขึ้น จิบทีไรจะรู้สึกว่าพิเศษ ขอยกให้เป็นหนึ่งในชาสุดสร้างสรรค์ที่เคยดื่มชามาเลย



ชาจริงแท้ต้องไม่มีสิ่งปรุงแต่งใดๆ

ชาร้าน TE เป็นชาที่มีซิกเนเจอร์ไม่เหมือนชาร้านอื่นๆ ที่แน่ๆ คุณปลาไม่ฉีดสเปรย์กลิ่น ใช้กลิ่นธรรมชาติจากชา และสนุนไพรผสม นอกจากจะต้องหอม คุณภาพดีแล้ว ชาของร้าน TE ยังต้องช่วยเรื่องสุขภาพด้วย คุณปลามีชาที่ไม่มีคาเฟอีน มีชาที่ช่วยลดความดัน กระตุ้นการทำงานของร่างกาย บำรุงสมอง ลดไขมันในเลือด และอื่นๆ อีกหลายตัว คณปลามั่นใจมากว่าถ้าดื่มชาทุกวัน อย่างอู่หลงนี่ช่วยลดไขมันในเลือด จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้จริงๆ หกเดือนจะเห็นผลแน่นอน




ดื่มชาอะไร เวลาไหนดี?

อีกเคล็ดลับดื่มชาเพื่อสุขภาพ คุณปลาเล่าว่า “ถ้าอู่หลงจะเหมาะกับหลังอาหาร ดื่มแล้วน้ำย่อยหลั่ง ช่วยย่อย ล้างไขมัน สังเกตได้ว่าคนจีนจะนิยมดื่มกันหลังทานอาหารมันๆ ถ้าเป็นชาดำให้ดื่มตอนบ่าย เพราะคาเฟอีนไม่เยอะ ช่วยย่อยด้วย และคลายเครียดได้ และถ้าอยากหลับสบาย ให้ดื่มชาคาโมมายล์ หรือชะเอม แล้วถ้าจะชงชาให้ดี ชาแต่ละชนิดก็มีระยะเวลาไม่เหมือนกัน อย่างชาเขียวเป็นชาที่อ่อน ไม่ได้คั่ว ไม่ได้หมัก ให้ใช้อุณหภูมิต่ำหน่อย สัก 60-70 องศา ประมาณจับแก้วแล้วไม่สะดุ้ง ชาอู่หลงก็ใช้แบบเดียวกับชาเขียว แต่ถ้าเป็นชาดำให้ใช้น้ำร้อนเลย สำคัญคือต้องแช่ชาไม่เกิน 5 นาที ไม่อย่างนั้นจะท้องผูก ถ้าอยากร่างกายตื่นตอนเช้าให้ดื่มชาเขียว เพราะมีคาเฟอีนเยอะหน่อย



และความต่างที่สุดของการดื่มชากับกาแฟ คุณปลาขอให้นิยามเลยว่า “ชาจะทำให้ตื่นแบบนิ่งๆ ไปเรื่อยๆ ทำให้มีแรงขึ้น แต่ไม่ถึงกับใจเต้นรัว และกระตุกให้ตื่น” ชายังเหมือนเป็น “สิ่งที่ต้องมี” ของชาวนักเขียน อาร์ติสท์ทั้งหลาย ที่ต้องการให้พลังสร้างสรรค์มาแบบเรื่อยๆ เรียงๆ ต่างกับกาแฟที่อาจเหมาะกับคนนอนดึกแต่ต้องตื่นเช้า


จากสาวมาร์เก็ตติ้ง มาเปิดร้านชา

หัวใจของชา ก็เหมือนกับหัวใจของเจ้าของแบรนด์ชา ก่อนหน้าทำร้าน TE คุณปลาเธอก็เริ่มจากคำถามง่ายๆ ที่ถามตัวเองเสมอๆ อะไรทำให้เรามีความสุข? และสำหรับเธอ การดมกลิ่น ความสุนทรีย์ ชีวิตที่ไม่ต้องเร็วนัก คือคำตอบ ที่ทำให้เธอโยงเข้ามาหาธรรมชาติของชาอันแท้จริงได้ จากสาวมาร์เก็ตติ้งทำงานประจำ เธอจึงค่อยๆ ค้นหาใบชา เบลนด์ชา จนกระทั่งแน่ใจได้ว่านี่คือสิ่งที่ใช่สำหรับเธอ คุณปลาจึงได้มาทำ TE เต็มตัว เป็นสาวเล่าเรื่องชาที่มีแต่รอยยิ้มบนหน้า ยิ้มทั้งปากและดวงตา ทำให้เราเข้าใจได้ทันทีที่พบเธอว่า เพราะความสุขของเธอแบบนี้นี่เอง ชาของ TE จึงละมุนในความรู้สึกเราได้ขนาดนี้



ชาร้าน TE จัดว่าเป็นงานคราฟท์ชา ไม่ปรุงแต่งสิ่งใดแน่นอน มีประโยชน์ และต้องอร่อย แล้วถ้าคนไม่เคยดื่มชาล่ะ จะเริ่มยังไง คุณปลาแนะนำให้ “เปิดใจกับชาก่อน ชาพิถีพิถันนะ มีเรื่องราวซ่อนอยู่หมด แล้วก็แค่ดื่มให้มีความสุข ชาจะช่วยเพิ่มความทรงจำ เพิ่มประสบการณ์ และสุขภาพแข็งแรงขึ้น แต่ละวันของคุณจะรู้สึกไม่เหมือนกันเลย”




ร้าน TE  ร้านชาที่นอกจากจะมีชาเบลนด์รสชาติดีๆ กลิ่นหอมๆ แล้วยังมีม็อกเทลชาหลายรสชาติให้ได้ลองชิมกัน รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก หลอดไม้ไผ่ และอุปกรณ์ชงชาสำหรับคนรักชาอีกด้วย











ร้าน TE ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ใกล้ๆ กับโซน Ecotopia สยามดิสคัฟเวอรี่
โทร. 062 242 4791